Introducing 

Prezi AI.

Your new presentation assistant.

Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.

Loading…
Transcript

Routine Activity Theory

แนวความคิดของทฤษฎี

บทความของนักสังคมวิทยาอเมริกัน(Cohen และ Felson) ปี ค.ศ.1979 ได้กล่าวถึงการอธิบายว่าทำไมมีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในการก่ออาชญากรรม ถึงแม้จะมีการปราบปรามการก่ออาชญากรรม ในช่วงปี ค.ศ.1960-1975 ในสภาพสังคมที่มีการก่ออาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ความยากจน การว่างงานที่ลดลง ในพื้นที่เขตเมือง รวมถึงระดับการศึกษา และรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตราการเกิดอาชญากรรมเกิดขึ้นอย่างรุนแรง มีการปล้น ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนและฆาตกรรม มีการขยายตัวร้อยละ 10.64 และ 20.63 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับอาชญากรรมทางด้านทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นที่ชัดเจนว่าทฤษฎีกิจวัตรประจำวัน ทางอาชญากรรมวิทยาที่สามารถอธิบายการเกิดอาชญากรรมที่ต้องชี้ไปที่ "รากเหง้า" ของการเกิดอาชญากรรม เช่น ความยากจนถูกปิดกั้นโอกาสในการได้รับการ แก้ปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งมีผลทำให้ความยากจนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการก่ออาชญากรรมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

Cohen และ Felson ได้เสนอคำอธิบายข้อถกเถียงเรื่องการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดอาชญากรรม ซึ่งมีการเสนอแนวคิดเรื่องของการทำงานหนักของ นิเวศวิทยาของมนุษย์ช่วงต้น ของ Amos Hawley และคนอื่น ๆ เช่น Roger Barker และ O.D.Duncan ซึ่งมองไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมที่ ซึ่งเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการเกิดอาชญากรรมที่อาจจะนำมาประกอบกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี โดยที่พวกเขาอ้างว่าเป็น กิจวัตรประจำวันของผู้คนที่ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลง กิจวัตรประจำวัน หมายถึงสิ่งที่ทำทุกๆวันเช่น ไปทำงาน ไปโรงเรียน ช้อปปิ้ง เป็นต้น การเกิดขึ้นของอาชญากรรมสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นช่วงของประชากรชาวอเมริกันจำนวนมาก ที่มีการเปลี่ยนแปลงการกระจายตัวของกิจกรรมมนุษย์ ออกจากครอบครัวหรือครัวเรือน โดยเฉพาะผู้หญิงที่เมื่อจบมัธยมศึกษาก็ได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัย และเข้าสู่วัยทำงานมีผู้ประกอบการหรือผู้ร่วมงานมากขึ้น ทำให้ชีวิตมีการพบปะผู้คนมากขึ้น

ที่มาเเละความสำคัญ (ต่อ)

แนวความคิดของทฤษฎี (ต่อ)

ผลของการเปลี่ยนแปลงนี้ในกิจกรรมที่เมื่อต้องออกจากบ้าน คือการที่มี ผู้คุ้มครอง ผู้ดูแล น้อยของบ้านเมืองเหล่านั้น ซึ่งทำให้เป็นเป้าหมายที่น่า

สนใจมากขึ้นสำหรับ นักย่องเบา เด็กและวัยรุ่นไม่ได้รับการดูแลหรือเลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากครอบครัว เพราะว่าพ่อแม่ย้ายเข้ามาอยู่ในสถานที่ทำงานเพื่อหา

เงินจำนวนมากทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อของเยาวชน เยาวชนมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะไม่มีผู้ใหญ่คอย

ดูแล สั่งสอน พฤติกรรมของพวกเขา

ไม่เพียงแต่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมของสถาบันครอบครัว ผู้หญิงที่เริ่มต้นทำงานนอกบ้านหรือไปโรงเรียนกลายเป็นเป้าหมายมากขึ้น สำหรับผู้ที่กระทำผิด

เพื่อฉวยโอกาส เช่นเดียวกับการเดินทางคนเดียวด้วย

ทฤษฎีเหล่านี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคนทุกคน ที่มีโอกาสการเกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆทฤษฎีข้างต้นจะอาศัยเหตุผล และรูปแบบ ของการเกิดอาชญากรรม และยังรวมอยู่ในกลุ่มของทฤษฎีที่เรียกว่า อาชญาวิทยาสิ่งแวดล้อม (Environmental Criminology) ก็คือสิ่งแวดล้อมของการเกิด อาชญากรรม ซึ่งรวมถึง 3 ทฤษฎีในการป้องกันอาชญากรรม เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์และการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรม ทฤษฎีนี้จะมุ่งเน้นในส่วน ของการดำเนินชีวิต ซึ่งแตกต่างจากทฤษฎีความผิดทางอาญา ( Theories of Criminality) ซึ่งพยายามที่จะอธิบายว่าทำไมคนถึงก่ออาชญากรรมนั่น คือ ทฤษฎีของอาชญากรรมจะเน้นทั้งในวงกว้างของสังคมและเหตุผลของการก่ออาชญากรรม

ทฤษฎีที่กล่าวข้างต้นถูกตีพิมพ์เป็นบทความในปี ค.ศ. 1979 ผู้เขียนคือ Lawrence Cohen และ Marcus Felson เป็นเพื่อนร่วมงาน กันในภาควิชา สังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ งานนี้ไม่ได้ถูกตีพิมพ์มาอย่างง่ายดาย ซึ่งได้รับการปฏิเสธโดยหกวารสารชั้นนำ ซึ่งมีความคิดเห็นที่นำเสนอในเรื่องของ การจัดการที่ดีของการต่อต้านการเขียนด้วยลายมือ ให้มันเป็นที่เปิดเผย มีความท้าทายในเรื่องของอาชญาวิทยา มีนักวิจารณ์ในช่วงต้นของทฤษฎีที่ว่าง่าย เกินไป พวกเขาคิดว่ามันจะดีที่สุดที่จะรวมไว้ในเรื่อง ภายใต้ทฤษฎีกระแสหลัก แม้จะมีการคาดการณ์ที่ เลวร้ายของนักวิจารณ์เหล่านี้ ซึ่งพวกเขาคิดว่าทฤษฎี นี้มันจะถูกอ้างถึงบ่อยที่สุดและผ่านการทดสอบทางทฤษฎีอาชญาวิทยา

ต่อไปจะอธิบายถึงกรอบความคิดและแนวคิดหลักของทฤษฎีที่ได้มีกระแสของนักวิชาการที่เป็นที่ถกเถียงกันในการบูรณาการของทฤษฎีมีการโต้แย้ง

ของสังคม, การควบคุมทางสังคม, การควบคุมตนเองและทฤษฎีการวางตัวเป็นกลาง ที่มีการพัฒนาอย่างมากในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมาส่วนหนึ่งเป็น เพราะการรวมเข้ากับทฤษฎีเก่า แต่ไม่มากนักเนื่องจากมีการค้นพบใหม่เกี่ยวกับอาชญากรรม วิวัฒนาการของกระบวนการนี้จะได้รับการสำรวจเป็นทฤษฎี ร่วมสมัยจะมีการหารือ และคาดหวังว่าจะได้รับอะไรในอนาคตของทฤษฎีนี้

องค์ประกอบดั้งเดิมของทฤษฎี(ต่อ)

ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นถึงหนึ่งในสมมติฐานที่ทำเป็นกิจวัตรประจำวันเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ที่มีแรงจูงใจและ ความโน้มเอียงในการก่ออาชญากรรมจะเห็นเป็นรูปธรรมและทราบถึงแนวโน้ม ของแต่ละบุคคลที่นำไปสู่การก่ออาชญากรรม และเน้นถึงบทบาทของปัจจัยด้านเวลาและพื้นที่อันที่จริงรูปแบบนี้รองรับกลุ่มของทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับกิจวัตรประจำวันซึ่ง อ้างว่าเป็นอาชญา กรรมที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่เพียงผู้เดียวในแง่ของลักษณะของการกระทำความผิดแต่มี ปัจจัยด้าน สิ่งแวดล้อมที่มีความสำคัญในการอธิบายถึงกลุ่มของการใช้ชีวิตประจำวันในสังคม ที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณของการก่อ อาชญากรรม โดยการลดปริมาณของการก่ออาชญากรรม จึงสามารถเพิ่มหรือลดได้โดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในแรง จูงใจของผู้กระทำความผิด

องค์ประกอบดั้งเดิมของทฤษฎี

องค์ประกอบดั้งเดิมของทฤษฎี(ต่อ)

ด้านทฤษฎีระดับจุลภาคของทฤษฎีกิจวัตรประจำวัน ระบุว่าสาเหตุของการก่ออาชญากรรม ที่สามารถเกิดขึ้นได้นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อมี

ผู้ที่มีศักยภาพ เพียงพอในการกระทำความผิด มีเป้าหมายที่เหมาะสมมาอยู่ร่วมกันในสถานที่และเวลาเดียวกัน และไม่มีผู้พิทักษ์ที่มีความ สามารถที่จะป้องกันไม่ให้มีการ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำผิดและเป้าหมายที่เหมาะสมซึ่งทฤษฎี นี้เป็นรูปแบบที่ง่าย มากสำหรับการก่อ อาชญากรรมและมาตรการป้องกันอาชญากรรม ที่เป็นหนึ่งในสามด้านของสามเหลี่ยมอาชญากรรมที่สามารถอธิบายถึงสาเหตุการณ์ ของการเกิดอาชญากรรมที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

รูปแบบของพฤติกรรมที่ก่อให้เกิด อาชญากรรมอย่างเห็นได้ชัดก็คือความแตกต่างของสถานที่ เช่นสถานที่ที่คุณจอดรถของคุณ

ทำให้เห็นความแตกต่างว่ามี ความเป็นไปได้ว่ามันจะถูกขโมยหรือไม่ ซึ่งแบ่งสถานที่ออกเป็น โรงรถของคุณเองซึ่งเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย ที่สุดและที่จอดรถสาธารณะเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุด ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปในช่วงเวลาที่แตกต่างกันสถานที่บางแห่ง

สถานที่บางแห่งมีความปลอดภัยในเวลากลางวันแต่อันตรายในเวลากลางคืนส่วนใหญ่เนื่องจากลักษณะของการใช้ประโยชน์ที่ดินและตัว

ผู้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น การตกเป็นเหยื่อในสวนสาธารณะในตัวเมืองในช่วงเวลาทำการอาจจะมีอัตราการเกิด ที่ต่ำ อาชญากรรม คนที่ใช้สวนสาธารณะจะมีส่วนร่วมในกิจกรรม มีผู้คนพุกพ่าน แม้ว่าจะมีความเสี่ยงของเป้าหมายที่เหมาะสมนอกจากนี้ ยังมีผู้ดูแล ผู้คุ้มครองที่มีความสามารถจำนวนมาก อาชญากรรมสามารถแตกต่างกันมากในสถานที่หนึ่งหนึ่งได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงตัวเลข ของแนวโน้มของผู้กระทำผิดหรือมีแรงจูงใจที่จะกระทำการก่ออาชญากรรม

ผู้ที่มีศักยภาพเพียงพอในการกระทำความผิด (Likely Offender)

เมื่อเป้าหมายเหมาะสม ไม่ได้รับการปกป้องจากผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถ มันก็มีโอกาสที่อาชญากรรมจะเกิดขึ้น

เป้าหมายที่เหมาะสม (Suitable Target)

เป้าหมายที่เหมาะสมจะต้องเกิดขึ้น เป้าหมายอาจเป็นคน วัตถุ หรือสถานที่ มีเป้าหมายเป็นจำนวนมากที่มีความเหมาะสมอย่างไรก็ตาม เป้าหมายทุกเป้าหมายไม่ใช่เป็นเป้าหมายที่มีความเหมาะสม สิ่งซึ่งที่ใช้อธิบายเป้าหมายที่เหมาะสม ได้แก่ ความมีค่า สามารถมองเห็นได้ และ

เข้าถึงได้ หรือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ และไม่ว่าเป้าหมายจะเหมาะสมเพียงใด อาชญากรรมจะไม่เกิดขึ้น นอกเสียจากกว่าผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถ

ไม่อยู่และคนร้ายที่มีความสามารถปรากฏตัวขึ้น

การขาดผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถ (Capable Guardian)

ผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถในการขัดขวางอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นจะต้องไม่อยู่ในเวลาและสถานที่นั้นผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถเป็นปัจจัยที่

สามารถปรามคนร้ายที่มีศักยภาพในการก่ออาชญากรรม และผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถมิใช่เฉพาะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อาจหมายความรวม

ถึง วัตถุสิ่งของต่าง ๆ รวมถึง กล้องที่มีวงจรปิด CCTV ที่จัดขึ้นเพื่อการตรวจตรา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเอกชนที่อยู่ในเวลาและสถานที่

ที่เกิดเหตุนั้น หรือเจ้าหน้าที่สายตรวจ หลักการเพื่อนบ้านเตือนภัย เจ้าหน้าที่เฝ้าประตู เพื่อนหรือเพื่อนบ้านหรือบางครั้งคนหรือ วัสดุอุปกรณ์อาจไม่เป็นผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถหากเลือกอยู่ในเวลาหรือสถานที่ที่ไม่สามารถป้องกันได้หรือศักยภาพส่วนบุคคลของ

เจ้าหน้าที่ไม่มีทักษะในทางการป้องกันอาชญากรรม เช่น การสังเกตบุคคลสิ่งของ หรือความผิดปกติต่าง ๆ ก็จะไม่เป็นเจ้าหน้าที่ที่มี

ความสามารถ

ที่มาเเละความสำคัญ

The routine activities คือ ทฤษฎีกิจวัตรประจำวันเป็นทฤษฎีหนึ่งที่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับคือ ระดับจุลภาคและระดับมหภาคทฤษฎี ระดับจุลภาคระบุว่าการก่ออาชญากรรมจะเกิดขึ้นเมื่อ 3 องค์ประกอบ

1.ผู้ที่มีศักยภาพเพียงพอในการกระทำความผิด (Likely Offender) 2.เป้าหมายที่เหมาะสม (Suitable Target) 3.การขาดผู้พิทักษ์ที่มีความสามารถ (Capable Guardian)

มาบรรจบกันในเวลาและสถานที่เดียวกันส่วนทฤษฎีระดับมหภาคที่จะตรวจสอบ การเปลี่ยนแปลงในวงกว้างของสังคม

design by Dóri Sirály for Prezi

Learn more about creating dynamic, engaging presentations with Prezi