Introducing
Your new presentation assistant.
Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.
Trending searches
ในการพัฒนาจิตวิทยาให้ ก้าวหน้าเท่าวิทยาศาสตร์ จะต้องมีเทคนิคการวัด พื้นฐานสำหรับบุคลิกภาพ
เกิดเป็น 16 ลักษณะนิสัยของแบบสอบถาม 16 PF
3.
5.
1.
Cattell นำวิธีการ ทาง
วิทยาศาตร์ไปใช้ในการ กำหนดขอบเขตบุคลิกภาพ ของมนุษย์ที่ยังไม่เคยมีใคร ค้นพบมาก่อน
2.
4.
เชื่อว่า ลักษณะนิสัย
ของมนุษย์สามารถทำนาย
ได้จาก ลักษณะบุคลิกภาพ
พื้นฐาน
ศึกษาโดยใช้ 3 วิธีด้วยกัน คือ L-dataหรือ การบันทึกประวัติ Q-data คือ ข้อมูลจาก
แบบสอบถาม และT-data
คือ ข้อมูลจากแบบสอบถาม แบบปรนัย
ตั้งแต่มีการเผยแพร่
แบบสอบถาม 16 PF ครั้งแรกได้มีการ
ปรับปรุงที่หลักๆ ฉบับซึ่งฉบับปรับปรุง
ล่าสุดที่ ได้เผยแพร่
ออกมาคือ The 16 PF fifth edition
ตั้งแต่ที่ได้เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1949 แบบทดสอบ 16 PF ถูกดัดแปลงเป็น
ภาษาอื่นมากกว่า 35 ภาษาทั่วโลก ในการดัดแปลงจะต้องระมัดระวังให้ เหมาะสมกับวัฒนธรรม บรรทัดฐาน และความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่นของ
แต่ละประเทศ
8.
6.
9.
7.
The 16 PF fifth edition มีจุดประสงค์เพื่อปรุงปรุง พัฒนาเนื้อหาข้อคำถามให้มีความทันสมัย
ในปี 1999 Web-based administration อนุญาตให้ผู้ใช้แบบทดสอบทั่วโลกเข้าถึงการจัดการ, เกณฑ์การให้คะแนน และสามารถใช้ภาษาต่างๆ ในการรายงานได้ โดยใช้เกณฑ์ปกติตาม ท้องถิ่น
แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16pf สร้างขึ้นมาจาก
ทฤษฎีบุคลิกภาพ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการ
สร้างทฤษฎีบุคลิกภาพมี 2 ปัจจัยหลักดังนี้
หลักการและมโนคติเบื้องต้น (Basic Concept and Principle)
มีอิทธิพล 2 ประการ
ที่เป็นหลักการในการสร้างทฤษฎี
บุคลิกภาพของ Cattell คือ
แนวความคิด
ทีได้มาจากการ
รักษาโรคด้วย
วิธีจิตวิเคราะห์
ของ Freud
จากประสบการทำงานในคลีนิคจิตวิทยา ทำให้ทฤษฎี
บุคลิกภาพของ Cattell ประกอบด้วยการทดสอบและ
สังเกตทางจิตวิทยา
แนวความคิดที่ได้จาก William MCDougall นักจิตวิทยาสังคม ซึ่งศึกษาพฤติกรรมสังคม
ความเป็นพ่อเป็นแม่
ความเกลียดชัง
ความอยากรู้อยากเห็น
ความทะเยอทะยาน
การต่อสู้
การถ่อมตน
การยืนยันความคิดเห็นของตนเอง
คือวิธีการหาค่าสหสัมพันธ์ทางสถิติ
เพื่อวิเคราะห์ตัวแปรทางจิตวิทยาที่ ได้จากสอบวัดหรือสังเกต
โดยวิธีการจัดกลุ่มและการ
วิเคราะห์องค์ประกอบ
ได้บุคลิกภาพเป็น
2 กลุ่มใหญ่ๆคือ
Cattell เริ่ม
ด้วยการศึกษา
บุคลิกภาพของ
บุคคลหลาย
ประเภทในวัย
ต่างๆ กันเป็น
จำนวนมาก
จากนั้นนำคะแนน
จากการทดสอบมา
วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของลักษณะ
ต่างๆของบุคลิกภาพ
เป็นการรวบรวมข้อมูลและหาความสัมพันธ์ของลักษณะบุคลิกภาพ
โดยใช้วิธีการจัดกลุ่มลักษณะ
บุคลิกภาพที่มีค่าสหสัมพันธ์
ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป จะเป็นบุคลิกภาพ
ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
การหาค่าความสัมพันธ์ของลักษณะ
บุคลิกภาพโดยวิธีการวิเคราะห์
องค์ประกอบ โดยค่าสหสัมพันธ์
สูงจะจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com
L-data หรือ “บันทึกประวัติ” ข้อมูลจริงที่ได้จากการวัด
พฤติกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน
www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com
Q – data เป็น “ข้อมูลจากการ
ตอบแบบสอบถาม” (questionnaire data) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีนี้ใช้การสัมภาษณ์หรือให้ตอบแบบถาม
www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com
T-data เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบทดสอบปรนัย เช่น แบบทดสอบ Rorschach หรือ TAT คะแนนจะได้จากการตีความของจิตแพทย์
องค์ประกอบ O
ชอบสังคม
ไว้ตัว
2. องค์ประกอบ B ความคิดรูปธรรม - ความคิดนามธรรม
ความคิดนามธรรม
ความคิดรูปธรรม
3. องค์ประกอบ C อารมณ์อ่อนไหว - อารมณ์มั่นคง
อารมณ์อ่อนไหว
อารมณ์มั่นคง
4. องค์ประกอบ E อ่อนน้อมถ่อมตน– ใช้อำนาจ
อ่อนน้อมถ่อมตน
ใช้อำนาจ
5. องค์ประกอบ F สุขุมมีสติ– ทำตนตามสบาย
ทำตนตามสบาย
สุขุมมีสติ
6. องค์ประกอบ G เห็นแก่ได้ชอบความสะดวกบาย – มีมโนธรรม
เห็นแก่ได้ชอบความสะดวกบาย
มีมโนธรรม
7. องค์ประกอบ H มีความอาย–กล้าหาญ
มีความอาย
กล้าหาญ
8. องค์ประกอบ I จิตใจมั่นคง – จิตใจอ่อนไหว
จิตใจมั่นคง
จิตใจอ่อนไหว
9. องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ – จิตใจหวาดระแวง
จิตใจหวาดระแวง
มีความไว้ใจ
10.องค์ประกอบ M ลงมือปฏิบัติ – สร้างจินตนาการ
สร้างจินตนาการ
ลงมือปฏิบัติ
11. องค์ประกอบ N จริงใจ – ฉลาดและช่ำชองทางสังคม
ฉลาดและช่ำชองทางสังคม
จริงใจ
12. องค์ประกอบ O จิตใจสงบมั่นคง–จิตใจหวาดหวั่น
จิตใจหวาดหวั่น
จิตใจสงบ
13. องค์ประกอบ Q1 นักอนุรักษ์ –นักทดลอง
นักอนุักษ์
นักทดลอง
14. องค์ประกอบ Q2 พึ่งกลุ่ม –พึ่งตนเอง
พึ่งกลุ่ม
นักทดลอง
15. องค์ประกอบ Q3 ขาดกฎเกณฑ์และวินัยในตนเอง – ควบคุมตนเอง
ควบคุมตนเอง
มีความตั้งใจจริง
ขาดกฎเกณฑ์และวินัยในตนเอง
16. องค์ประกอบ Q4 อารมณ์ผ่อนคลาย – อารมณ์ตึงเครียด
อารมณ์ผ่อนคลาย
อารมณ์ตึงเครียด
ฟอร์ม C
ฟอร์ม E
ฟอร์ม A
เป็นฟอร์มมาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่ ฟอร์ม A ใช้สลับกับฟอร์ม B เหมาะที่จะใช้กับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และนักศึกษาระดับ
มหาวิทยาลัย มีข้อคำถามจำนวน
187 ข้อ เวลาที่ใช้ประมาณ
45-60 นาที
ฟอร์ม C
ฟอร์ม C ใช้สลับกับฟอร์ม D เหมาะที่จะใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน มีข้อคำถามจำนวน 105 ข้อ เวลาที่ใช้ประมาณ 25-35 นาที
ฟอร์ม E
ฟอร์ม E เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง
การอ่าน มีข้อคำถามจำนวน 128 ข้อ
เวลาที่ใช้ประมาณ 45-60 นาที
คำถาม
(O) ฉันชอบคนที่
ก. เก็บตัว
ข. อยู่ระหว่างข้อ ก กับ ค
ค. เป็นมิตรกับคนอื่นนง่าย
ในแบบทดสอบ 16 PF จะมีฟอร์มมาตรฐาน โดยให้ทำเครื่องหมาย “X” ลงในช่องสีเหลี่ยม [ ] หน้าข้อที่เลือก โดยคำนึงถึงหลัก 4 ประการ
1. ตอบตามความเป็นจริง
2. ไม่ควรใช้เวลาในการตอบแต่ละข้อนานเกินไปพยายามตอบทันที
ที่อ่านคำถามเสร็จ คำถามบางข้ออาจสั้น หรือให้ข้อมูลน้อยเกินไป
ก็ให้เลือกคำตอบที่ใกล้เคียงหรือตรงกับความคิดของผู้ตอบให้มากที่สุด
3. ต้องตอบทุกข้อโดยไม่เว้นข้อหนึ่งข้อใด
4. ควรจะตอบข้อ ก หรือ ข้อ ค ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และตอบข้อ ข
เมื่อคำตอบในข้อ ก และข้อ ค เป็นคำตอบที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ สำหรับผู้ตอบ
แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF แต่ละข้อจะมีคะแนน 0,1,2 ยกเว้นคำถามในองค์ประกอบ B ที่มีคะแนนเท่ากับ 0,1 นอกจากนี้ยังมีมาตรที่วัดความตั้งใจของการตอบ ซึ่ง แคลเทลได้ สร้างไว้ 3 มาตรคือ
1. การตอบเพื่อให้ตนเองมีบุคลิกภาพที่พึงประสงค์ (fake good) ซึ่งมีจำนวนข้อที่ใช้วัด 14 ข้อ แต่ละข้อมีคะแนนเท่ากับ 1 ถ้าผู้ตอบได้คะแนน fake good ตั้งแต่ 6 ขึ้นไป เป็นที่น่าสงสัยว่า ผู้ตอบแสร้งตอบให้ตนเองดี
2. การตอบเพื่อให้ตนเองมีบุคลิกภาพที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ (fake bad)
มีจำนวนข้อที่ใช้วัด 15 ผู้ตอบที่ได้คะแนนตั้งแต่ 6 ขึ้นไป เป็นที่น่าสงสัย
ว่าผู้ตอบแสร้งตอบให้ตนเองไม่ดี ถ้าได้คะแนนตั้งแต่ 12 ขึ้นไป
ใน fake good หรือ fake bad แสดงถึงผู้ตอบพยายามที่จะเสแสร้ง
(concious attempt fake)
3. การเดาสุ่ม (random answering)
มีจำนวนข้อที่ใช้วัด 31 ข้อ ถ้าได้คะแนนดิบตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ให้สงสัยว่าผู้ตอบเดาสุ่ม แต่ถ้าได้คะแนนดิบตั้งแต่ 12 ขึ้นไป
แสดงว่าผู้ตอบ ตอบเดาสุ่มอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะเป็นไปได้
ว่าผู้ตอบไม่เข้าใจคำแนะนำในการตอบแบบทดสอบ
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นประชากรชาวอเมริกันโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติแยกตามฟอร์ม A,B,C,D และ E
2. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติ ซึ่งรวมฟอร์มต่าง ๆ เช่น ฟอร์ม (A+B),(C+D)
3. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติจำแนกตามเพศ
ปัยจัยที่คำนึงถึงในการสร้างเกณฑ์ปกติ
1. สถานภาพทางสังคม
2. ภูมิภาค
3. อายุ
4. เขตชนบทและเมือง
ปี 1969 ได้มีผู้สร้างเกณฑ์ปกติของแบบทดสอบบุคลิกภาพ ฟอร์ม A สำหรับคนอเมริกัน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งเขตภูมิภาค กลุ่มเหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 70 ปี โดยสร้างเกณฑ์ปกติใน 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอายุมาตรฐาน ระหว่าง 17-19 ปี
- กลุ่มนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย มีอายุมาตรฐานระหว่าง 20 - 29 ปี
- กลุ่มประชากรทั่วไป ที่มีอายุมาตรฐานตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป
• ในปี 1936 อัลพอร์ตและออกเบิร์ตได้รวบรวมคำคุณศัพท์ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับบุคลิกภาพของมนุษย์
ที่ครอบคลุมในหลายด้าน ประมาณ 4000 คำ มาจัดได้ 180 กลุ่มโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบของ
สเปียร์แมนและคนอื่น
• จากนั้นใช้วิธีการหาค่าสหสัมพันธ์ให้เหลือ 45 กลุ่ม
• ใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบจนได้องค์ประกอบ
บุคลิกภาพ 15 องค์ประกอบ
• ต่อมามีการตัดองค์ประกอบบางตัวที่ไม่
เหมาะสมออกให้เหลือเพียง 12 องค์ประกอบ
• เป็นองค์ประกอบที่ไม่ได้คิดค้นขึ้นมาจากการวิเคราะห์ทางภาษา แต่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันจึงรวมองค์ประกอบ Q เข้าไปในแบบทดสอบด้วย
• ต่อมาองค์ประกอบ Q นี้กลายเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญ
เทียบเท่ากับองค์ประกอบอื่น ๆ
• กลายเป็นองค์ประกอบบุคลิกภาพ 16 องค์ประกอบในปัจจุบัน
คุณสมบัติแบบทดสอบ
2
3
1
4
ทำให้ผู้ให้คำปรึกษาเข้าใจในตัวผู้มารับบริการได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้รับบริการรู้จักและเข้าใจตนเองดีขึ้น
-วงการศึกษาเพื่อคัดเลือก
นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าศึกษาในโรงเรียน หรือสถาบันต่าง ๆ
-วงการเกี่ยวกับบุคลากร
เพื่อคัดเลือกบุคลากร
ในวงการต่าง ๆ ทั้งองค์การ
ของเอกชนหรือหน่วยงาน
ของราชการ
- การแนะแนวการศึกษา
เพื่อวางแผนการศึกษา
ในอนาคตของนักเรียน
ให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ
- การแนะแนวอาชีพ เพื่อประกอบเป็นแนวทาง
ชี้แนะบุคคลให้รู้ถึงลักษณะของตนเองว่าเหมาะสมกับอาชีพใด
สามารถนำไปใช้ในงานวิจัยเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ต่างประเทศ
- ในประเทศ
แคลเทล กล่าวถึงความเที่ยงตรง
ของแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF โดยมีความเที่ยงตรงดังนี้
1. ความเที่ยงตรงตามโครงสร้าง
2. ความเที่ยงตรงตามเกณฑ์สัมพันธ์
ความเชื่อมั่น
ประภา เชื้อภัคดี
กับพยาบาลโรงพยาบาล
รามาธิบดี ได้ศึกษา
ความเชื่อมั่นของแบบ
ทดสอบโดยใช้วิธีทดสอบซ้ำ (test – retest)
- ได้มีผู้ทำการศึกษาค่าความ
เชื่อมั่นของแบบทดสอบ
บุคลิกภาพ 16 PF ทั้ง
ฟอร์ม A และ B ได้ค่า
ความเที่ยงเท่ากับ 0.70
- The Manual for the 16 PF ได้รับรายงานค่าความเชื่อมั่น
ซึ่งหา โดยวิธี test-retest ได้ค่าความเที่ยง 0.58 - 0.83
นำคะแนนที่ได้มา plot ลงใน profile ซึ่งมีคะแนนตั้งแต่ 1-10
หมายถึง มีองค์ประกอบบุคลิกภาพในองค์ประกอบน้ั้นมี
แนวโน้มไปทางใดทาง หนึ่งเพียงเล็กน้อย
ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 10
จะมีลักษณะ ชอบสังคม ปรับตัวง่าย
ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 2,3
มีลักษณะค่อนข้างแยกตัวและปรับตัวยาก
ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 8,9
มีลักษณะค่อนข้างชอบสังคมและ ปรับตัวง่าย
ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 4
มีแนวโน้มที่จะแยกตัวและปรับตัวยาก
ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 7
มีแนวโน้มที่จะชอบสังคมและปรับตัวง่าย
มีลักษณะกลางๆ คือ ไม่ถึงกับมีแนวโน้มชอบสังคมหรือแยกตัว
งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ
แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF
กุลธิดา รงค์จิตประภัสร์ (2535)
องค์ประกอบ A ไว้ตัว - ชอบสังคม
1
2
องค์ประกอบ B การใช้เหตุผลต่ำ - การใช้เหตุผลสูง
3
องค์ประกอบ C อารมณ์อ่อนไหว - อารมณ์มั่นคง
4
องค์ประกอบ G ชอบตามใจตนเอง - มีมโนธรรม
5
องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ - ช่างสงสัย
6
องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ - ช่างสงสัย
7
องค์ประกอบ M ลงมือปฏิบัติ - สร้างจินตนาการ
8
องค์ประกอบ O จิตใจสงบมั่นคง - วิตกกังวล
องค์ประกอบ Q4 อารมณ์ผ่อนคลาย - อารมณ์ตึงเครียด
9
สตาร์ (Star ,1968)
ครูที่ได้รับการประเมินความสามารถในการสอนสูงมีลักษณะ ดังนี้
ไว้ตัว (A-)
ชอบความสะดวกสบาย (G-)
อนุรักษ์นิยม (Q1-)
พึ่งกลุ่ม (Q2-)
มีความไว้วางใจ(L-)
จริงใจเปิดเผย (N-)
ครูที่ได้รับการประเมินความสามรถในการสอนต่ำมีลักษณะ ดังนี้
มีความเชื่อมั่นในตนเอง จิตใจเข้มแข็ง (I-)
มีอารมณ์มั่นคง (C+)
คล่องแคล่ว (N+)
ชอบการทดลอง (Q1+)