Introducing 

Prezi AI.

Your new presentation assistant.

Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.

Loading…
Transcript

Personality test

the 16 pf

ประวัติและ

การพัฒนา

แบบทดสอบ

ในการพัฒนาจิตวิทยาให้ ก้าวหน้าเท่าวิทยาศาสตร์ จะต้องมีเทคนิคการวัด พื้นฐานสำหรับบุคลิกภาพ

เกิดเป็น 16 ลักษณะนิสัยของแบบสอบถาม 16 PF

3.

5.

1.

ประวัติและ

การพัฒนา

16 PF

Cattell นำวิธีการ ทาง

วิทยาศาตร์ไปใช้ในการ กำหนดขอบเขตบุคลิกภาพ ของมนุษย์ที่ยังไม่เคยมีใคร ค้นพบมาก่อน

2.

4.

เชื่อว่า ลักษณะนิสัย

ของมนุษย์สามารถทำนาย

ได้จาก ลักษณะบุคลิกภาพ

พื้นฐาน

ศึกษาโดยใช้ 3 วิธีด้วยกัน คือ L-dataหรือ การบันทึกประวัติ Q-data คือ ข้อมูลจาก

แบบสอบถาม และT-data

คือ ข้อมูลจากแบบสอบถาม แบบปรนัย

ตั้งแต่มีการเผยแพร่

แบบสอบถาม 16 PF ครั้งแรกได้มีการ

ปรับปรุงที่หลักๆ ฉบับซึ่งฉบับปรับปรุง

ล่าสุดที่ ได้เผยแพร่

ออกมาคือ The 16 PF fifth edition

ตั้งแต่ที่ได้เผยแพร่ครั้งแรกในปี 1949 แบบทดสอบ 16 PF ถูกดัดแปลงเป็น

ภาษาอื่นมากกว่า 35 ภาษาทั่วโลก ในการดัดแปลงจะต้องระมัดระวังให้ เหมาะสมกับวัฒนธรรม บรรทัดฐาน และความเที่ยงตรง ความเชื่อมั่นของ

แต่ละประเทศ

8.

6.

Birth/Death

9.

7.

The 16 PF fifth edition มีจุดประสงค์เพื่อปรุงปรุง พัฒนาเนื้อหาข้อคำถามให้มีความทันสมัย

ในปี 1999 Web-based administration อนุญาตให้ผู้ใช้แบบทดสอบทั่วโลกเข้าถึงการจัดการ, เกณฑ์การให้คะแนน และสามารถใช้ภาษาต่างๆ ในการรายงานได้ โดยใช้เกณฑ์ปกติตาม ท้องถิ่น

ทฤษฎีบุคลิกภาพ

1.หลักการและ

มโนคติเบื้องต้น

แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16pf สร้างขึ้นมาจาก

ทฤษฎีบุคลิกภาพ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการ

สร้างทฤษฎีบุคลิกภาพมี 2 ปัจจัยหลักดังนี้

ทฤษฏี

2.การวิเคราะห์องค์ประกอบ

หลักการและมโนคติเบื้องต้น (Basic Concept and Principle)

มีอิทธิพล 2 ประการ

ที่เป็นหลักการในการสร้างทฤษฎี

บุคลิกภาพของ Cattell คือ

แนวความคิด

ทีได้มาจากการรักษา

โรคด้วยวิธีจิต

วิเคราะห์

แนวความคิดที่ ได้จากนักจิตวิทยาสังคม

แนวความคิด

ทีได้มาจากการ

รักษาโรคด้วย

วิธีจิตวิเคราะห์

ของ Freud

จากประสบการทำงานในคลีนิคจิตวิทยา ทำให้ทฤษฎี

บุคลิกภาพของ Cattell ประกอบด้วยการทดสอบและ

สังเกตทางจิตวิทยา

แนวความคิดที่ได้จาก William MCDougall นักจิตวิทยาสังคม ซึ่งศึกษาพฤติกรรมสังคม

ความเป็นพ่อเป็นแม่

ความเกลียดชัง

ความอยากรู้อยากเห็น

ความทะเยอทะยาน

อธิบายพฤติกรรม

สังคมโดยใช้

หลักเบื้องต้น

7 ประการ คือ

การต่อสู้

การถ่อมตน

การยืนยันความคิดเห็นของตนเอง

การวิเคราะห์องค์ประกอบ

คือวิธีการหาค่าสหสัมพันธ์ทางสถิติ

เพื่อวิเคราะห์ตัวแปรทางจิตวิทยาที่ ได้จากสอบวัดหรือสังเกต

การสร้าง

การสร้างทฤษฎีวิเคราะห์

องค์ประกอบ

โดยวิธีการจัดกลุ่มและการ

วิเคราะห์องค์ประกอบ

ได้บุคลิกภาพเป็น

2 กลุ่มใหญ่ๆคือ

อุปนิสัยพื้นผิว

อุปนิสัยต้นตอ

Cattell เริ่ม

ด้วยการศึกษา

บุคลิกภาพของ

บุคคลหลาย

ประเภทในวัย

ต่างๆ กันเป็น

จำนวนมาก

จากนั้นนำคะแนน

จากการทดสอบมา

วิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของลักษณะ

ต่างๆของบุคลิกภาพ

อุปนิสัยพื้นผิว

เป็นการรวบรวมข้อมูลและหาความสัมพันธ์ของลักษณะบุคลิกภาพ

โดยใช้วิธีการจัดกลุ่มลักษณะ

บุคลิกภาพที่มีค่าสหสัมพันธ์

ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป จะเป็นบุคลิกภาพ

ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน

อุปนิสัยต้นตอ

การหาค่าความสัมพันธ์ของลักษณะ

บุคลิกภาพโดยวิธีการวิเคราะห์

องค์ประกอบ โดยค่าสหสัมพันธ์

สูงจะจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน

วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล

Q-data

L-data

Laptop and notes

วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล

ที่ Cattell ใช้มี 3 วิธี ดังนี้

T-data

www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com

Webpage

L-data หรือ “บันทึกประวัติ” ข้อมูลจริงที่ได้จากการวัด

พฤติกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน

www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com

Webpage

Q – data เป็น “ข้อมูลจากการ

ตอบแบบสอบถาม” (questionnaire data) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีนี้ใช้การสัมภาษณ์หรือให้ตอบแบบถาม

www.https://prezi.com/p/edit/zhkllx4owbv0/.com

Webpage

T-data เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบทดสอบปรนัย เช่น แบบทดสอบ Rorschach หรือ TAT คะแนนจะได้จากการตีความของจิตแพทย์

อุปนิสัยต้นตอที่สำคัญในแบบทดสอบ 16 PF (Major

Source Traits on the Sixteen Personality Factor Test)

องค์ประกอบ

ของ

แบบทดสอบ 16 PF (ฟอร์ม A)

องค์ประกอบ O

องค์ประกอบ

A

องค์ประกอบ A ไว้ตัว – ชอบสังคม

ชอบสังคม

  • เป็นผู้ที่ชอบเข้าสังคม
  • ชอบเข้าร่วมกิจกรรม 
  • มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น

ไว้ตัว

  •  มีลักษณะก้าวร้าว
  • เอาแต่ใจตัวเอง
  • ชอบวิพากษ์วิจารณ์
  • ชอบปิดตัว และไม่ผ่อนหนักผ่อนเบา

องค์ประกอบ B 

2. องค์ประกอบ B  ความคิดรูปธรรม - ความคิดนามธรรม

ความคิดนามธรรม

  • เป็นผู้ที่มีเชาวน์ปัญญาสูง เฉลียวฉลาด
  • มีความพากเพียรในการศึกษาหา ความรู้

ความคิดรูปธรรม

  • มีระดับสติปัญญาไม่เฉลียวฉลาดมากนัก
  • ขาดความมั่นคงในตนเอง
  • พฤติกรรมไม่คล่องแคล่ว

องค์ประกอบ C

3. องค์ประกอบ C  อารมณ์อ่อนไหว - อารมณ์มั่นคง

อารมณ์อ่อนไหว

  • มีความรู้สึกอ่อนไหวง่าย
  • ไม่มีความอนทดต่อสถานการณ์ที่ยุ่งยาก
  • ชอบหลีกเลี่ยงปัญหา

อารมณ์มั่นคง

  • มีวุฒิภาวะทางอารมณ์
  • จิตใจสงบ
  • รู้จักความเป็นจริงของชีวิต

องค์ประกอบ E

4. องค์ประกอบ E อ่อนน้อมถ่อมตน– ใช้อำนาจ

อ่อนน้อมถ่อมตน

  • มีลักษณะนิสัยอ่อนน้อม เชื่อฟัง
  • มีเมตตา
  • อารมณ์เสียง่าย
  • มีความพอใจในตนเอง

ใช้อำนาจ

  • ถือตนเองเป็นใหญ่
  • ดื้อรั้น
  • เชื่อมั่นในตนเอง
  • ต้องการความสนใจจากผู้อื่น

องค์ประกอบ

F

5. องค์ประกอบ F สุขุมมีสติ– ทำตนตามสบาย

ทำตนตามสบาย

  • ผู้มีพฤติกรรมสบายๆ
  • ช่างพูด
  • เป็นคนตรงไปตรงมา
  • มีความกระตือรือร้น

สุขุมมีสติ

  • เป็นผู้ที่มีลักษณะเงียบขรึม
  • มักมีความรู้สึกไม่สบายใจ
  • มีความกังวล
  • ไม่ชอบติดต่อกับผู้อื่น

องค์ประกอบ G

6. องค์ประกอบ G เห็นแก่ได้ชอบความสะดวกบาย – มีมโนธรรม

เห็นแก่ได้ชอบความสะดวกบาย

  • มีความรับผิดชอบน้อย
  • ขาดความอดทน 
  • ชอบหลีกเลี่ยงกฎเกณฑ์

มีมโนธรรม

  • เป็นผู้ที่มีธรรมะในใจ
  • มีความรับผิดชอบ
  • มีวุฒิภาวะทางอารมณ์
  • สนใจผู้อื่น

องค์ประกอบ H

7. องค์ประกอบ H มีความอาย–กล้าหาญ

มีความอาย

  • ชอบปลีกตัวจากผู้อื่น
  • สงบเสงี่ยม
  • ความสนใจแคบ
  • นึกถึงผู้อื่น

กล้าหาญ

  • ผู้มีลักษณะชอบเสี่ยงภัย
  • ชอบพบกับบุคคลอื่น
  • มีความคล่องแคล่ว
  • เป็นมิตร

องค์ประกอบ

I

8. องค์ประกอบ I จิตใจมั่นคง – จิตใจอ่อนไหว

จิตใจมั่นคง

  • เชื่อมั่นในตนเอง
  • มีความรับผิดชอบ ใจแข็ง
  • พอใจในตนเอง
  • ไม่กังวลในปมด้อยของร่างกาย

จิตใจอ่อนไหว

  • ชอบเรียกร้อง
  • ไม่มีความอดทน
  • ต้องการความช่วยเหลือ
  • มีความเมตตากรุณา สุภาพอ่อนโยน
  • ต้องการความสนใจ
  • กังวลถึงสุขภาพแม้ไม่ได้เจ็บป่วย

องค์ประกอบ

L

9. องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ – จิตใจหวาดระแวง

จิตใจหวาดระแวง

  • มีลักษณะอิจฉาผู้อื่น
  • พอใจในตนเอง
  • ยึดมั่นในความเห็นของตน
  • ข่มเหงผู้อื่น

มีความไว้ใจ

  • ลักษณะยอมรับผู้อื่น
  • ไม่อิจฉา
  • คบง่าย
  • ชอบเข้าสังคม
  • เห็นอกเห็นใจและให้โอกาสผู้อื่น
  • อารมณ์เยือกเย็นและรื่นเริง

องค์ประกอบ M

10.องค์ประกอบ M ลงมือปฏิบัติ – สร้างจินตนาการ

สร้างจินตนาการ

  • หมกมุ่นในแรงขับภายใน
  • สนใจศิลปะ ทฤษฎี และความเชื่อพื้นฐาน
  • ชอบสร้างมโนภาพ
  • มีความคิดสร้างสรรค์
  • ขาดวุฒิภาวะในการตัดสินใจ

ลงมือปฏิบัติ

  • ชอบการปฏิบัติจริง
  • เจ้าระเบียบ กระตือรือร้น
  • มีความสนใจแคบอยู่เฉพาะเรื่องปัจจุบัน
  • ไม่มีความคิดสร้างสรรค
  • ์ มีการพิจารณาที่เหมาะสม

องค์ประกอบ N

11. องค์ประกอบ N จริงใจ – ฉลาดและช่ำชองทางสังคม

ฉลาดและช่ำชองทางสังคม

  • มีมารยาท
  • มีความคล่องแคล่วในการติดต่อกับผู้อื่น
  • มองการไกล
  • มีการควบคุมอารมณ์ และมีความทะเยอทะยาน

จริงใจ

  • มีลักษณะเปิดเผย
  • ไม่เสแสร้ง
  • ขาดความเข้าใจตนเอง
  • ขาดทักษะในการวิเคราะห์ แรงจูงใจ

12. องค์ประกอบ O จิตใจสงบมั่นคง–จิตใจหวาดหวั่น

จิตใจหวาดหวั่น

  • มีความวิตกกังวล
  • อารมณ์อ่อนไหว
  • วิตกกังวลในเรื่องสุขภาพ
  • มีอารมณ์กลัว และเศร้าหมอง

จิตใจสงบ

  • มั่นใจในตนเอง
  • ปรับจิตใจได้ง่าย
  • ถือความสะดวก
  • ไม่มีความวิตกกังวล

องค์ประกอบ

Q1

13. องค์ประกอบ Q1 นักอนุรักษ์ –นักทดลอง

นักอนุักษ์

  • ถือจารีตประเพณีนิยม
  • เชื่อในสิ่งที่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนมา
  • ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
  • ไม่สนใจการคิดแบบวิเคราะห์

นักทดลอง

  • ชอบการทดลอง
  • ชอบวิพากษ์วิจารณ์
  • ชอบวิเคราะห์
  • สนใจเรื่องการใช้สติปัญญา
  • มีลักษณะสงสัยและชอบค้นคว้า
  • เปิดใจกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง

องค์ประกอบ Q2

14. องค์ประกอบ Q2 พึ่งกลุ่ม –พึ่งตนเอง

พึ่งกลุ่ม

  • เป็นผู้ร่วมงานและผู้ตามที่ดี
  • ต้องการยอมรับจากสังคม
  • ต้องการความสนับสนุนจากกลุ่ม

นักทดลอง

  • พอใจในตนเอง
  • เคยชินกับวิธีการทำงานของตน
  • ปฏิบัติตามแบบแผนของตนเอง
  • ไม่สนใจความคิดเห็นของสังคมม

องค์ประกอบ Q3

15. องค์ประกอบ Q3 ขาดกฎเกณฑ์และวินัยในตนเอง – ควบคุมตนเอง

ควบคุมตนเอง

  • เป็นผู้ที่ควบคุมตนเองได้ทำตัวเหมาะสมกับสังคม

มีความตั้งใจจริง

ขาดกฎเกณฑ์และวินัยในตนเอง

  • ไม่มีวินัย
  • ควบคุมตนเองไม่ได้
  • ไม่เอาใจใส่ต่อกฎเกณฑ์และความต้องการของสังคม
  • ความสามารถในการปรับตัวไม่ดี

องค์ประกอบ Q4

16. องค์ประกอบ Q4 อารมณ์ผ่อนคลาย – อารมณ์ตึงเครียด

อารมณ์ผ่อนคลาย

  • เป็นบุคคลที่ทำตามความพอใจ
  • ไม่มีความคับข้องใจ
  • พอใจในสถานการณ์ที่เป็นอยู่

อารมณ์ตึงเครียด

  • มีลักษณะเครียด
  • มีความคับข้องใจ
  • ตื่นเต้น และใจร้อน

แบบทดสอบฟอร์มต่าง ๆ

คำถาม

การดำเนินการ

แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF

การตอบ

การดำเนินการ

การตรวจให้คะแนน

ฟอร์ม C

ฟอร์ม A

ฟอร์ม E

16 PF ใช้สำหรับบุคคลที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยได้มีการสร้างแบบทดสอบ

ฟอร์มต่าง ๆ ไว้ใช้สลับกัน เพื่อให้มีความเที่ยงตรงมากขึ้น คือ

ฟอร์ม A

เป็นฟอร์มมาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่ ฟอร์ม A ใช้สลับกับฟอร์ม B เหมาะที่จะใช้กับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และนักศึกษาระดับ

มหาวิทยาลัย มีข้อคำถามจำนวน

187 ข้อ เวลาที่ใช้ประมาณ

45-60 นาที

ฟอร์ม C

ฟอร์ม C ใช้สลับกับฟอร์ม D เหมาะที่จะใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน มีข้อคำถามจำนวน 105 ข้อ เวลาที่ใช้ประมาณ 25-35 นาที

ฟอร์ม E

ฟอร์ม E เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่อง

การอ่าน มีข้อคำถามจำนวน 128 ข้อ

เวลาที่ใช้ประมาณ 45-60 นาที

คำถาม

แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF (ฟอร์ม A) ประกอบด้วยคำถามจำนวน 187 ข้อ แต่ละข้อเป็นคำถามเพื่อต้องการทราบความสนใจและความคิดเห็นของผู้ตอบ คำถามจึงไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด คำถามจะมีคำตอบให้เลือก 3 คำตอบ ให้ผู้ตอบเลือกคำตอบที่ตรงกับความรู้สึกของตนเองมากที่สุดเพียงคำตอบ

เดียวจาก ก,ข, ค

ตัวอย่าง

ตัวอย่าง

(O) ฉันชอบคนที่

ก. เก็บตัว

ข. อยู่ระหว่างข้อ ก กับ ค

ค. เป็นมิตรกับคนอื่นนง่าย

การตอบ

ในแบบทดสอบ 16 PF จะมีฟอร์มมาตรฐาน โดยให้ทำเครื่องหมาย “X” ลงในช่องสีเหลี่ยม [ ] หน้าข้อที่เลือก โดยคำนึงถึงหลัก 4 ประการ

ดังนี้

ดังนี้

1. ตอบตามความเป็นจริง

2. ไม่ควรใช้เวลาในการตอบแต่ละข้อนานเกินไปพยายามตอบทันที

ที่อ่านคำถามเสร็จ คำถามบางข้ออาจสั้น หรือให้ข้อมูลน้อยเกินไป

ก็ให้เลือกคำตอบที่ใกล้เคียงหรือตรงกับความคิดของผู้ตอบให้มากที่สุด

3. ต้องตอบทุกข้อโดยไม่เว้นข้อหนึ่งข้อใด

4. ควรจะตอบข้อ ก หรือ ข้อ ค ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และตอบข้อ ข

เมื่อคำตอบในข้อ ก และข้อ ค เป็นคำตอบที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ สำหรับผู้ตอบ

การตรวจให้คะแนน

แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF แต่ละข้อจะมีคะแนน 0,1,2 ยกเว้นคำถามในองค์ประกอบ B ที่มีคะแนนเท่ากับ 0,1 นอกจากนี้ยังมีมาตรที่วัดความตั้งใจของการตอบ ซึ่ง แคลเทลได้ สร้างไว้ 3 มาตรคือ

ข้อ 2

ข้อ 1

ข้อ 3

1. การตอบเพื่อให้ตนเองมีบุคลิกภาพที่พึงประสงค์ (fake good) ซึ่งมีจำนวนข้อที่ใช้วัด 14 ข้อ แต่ละข้อมีคะแนนเท่ากับ 1 ถ้าผู้ตอบได้คะแนน fake good ตั้งแต่ 6 ขึ้นไป เป็นที่น่าสงสัยว่า ผู้ตอบแสร้งตอบให้ตนเองดี

ข้อ 1

2. การตอบเพื่อให้ตนเองมีบุคลิกภาพที่ไม่เป็นที่พึงประสงค์ (fake bad)

มีจำนวนข้อที่ใช้วัด 15 ผู้ตอบที่ได้คะแนนตั้งแต่ 6 ขึ้นไป เป็นที่น่าสงสัย

ว่าผู้ตอบแสร้งตอบให้ตนเองไม่ดี ถ้าได้คะแนนตั้งแต่ 12 ขึ้นไป

ใน fake good หรือ fake bad แสดงถึงผู้ตอบพยายามที่จะเสแสร้ง

(concious attempt fake)

ข้อ 2

3. การเดาสุ่ม (random answering)

มีจำนวนข้อที่ใช้วัด 31 ข้อ ถ้าได้คะแนนดิบตั้งแต่ 5 ขึ้นไป ให้สงสัยว่าผู้ตอบเดาสุ่ม แต่ถ้าได้คะแนนดิบตั้งแต่ 12 ขึ้นไป

แสดงว่าผู้ตอบ ตอบเดาสุ่มอย่างแน่นอน แต่ก็อาจจะเป็นไปได้

ว่าผู้ตอบไม่เข้าใจคำแนะนำในการตอบแบบทดสอบ

ข้อ 3

การสร้างเกณฑ์ปกติของแบบทดสอบ 16 PF

การสร้างเกณฑ์ปกติของแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF

กลุ่มตัวอย่างในการการสร้างเกณฑ์

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นประชากรชาวอเมริกันโดยมีรายละเอียดดังนี้

กลุ่มตัวอย่าง

1. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติแยกตามฟอร์ม A,B,C,D และ E

2. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติ ซึ่งรวมฟอร์มต่าง ๆ เช่น ฟอร์ม (A+B),(C+D)

3. มีการสร้างตารางเกณฑ์ปกติจำแนกตามเพศ

ปัยจัยที่คำนึงถึง

ปัยจัยที่คำนึงถึงในการสร้างเกณฑ์ปกติ

1. สถานภาพทางสังคม

2. ภูมิภาค

3. อายุ

4. เขตชนบทและเมือง

กลุ่มตัวอย่าง

ปี 1969 ได้มีผู้สร้างเกณฑ์ปกติของแบบทดสอบบุคลิกภาพ ฟอร์ม A สำหรับคนอเมริกัน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งเขตภูมิภาค กลุ่มเหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 70 ปี โดยสร้างเกณฑ์ปกติใน 3 กลุ่มคือ

- กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย มีอายุมาตรฐาน ระหว่าง 17-19 ปี

- กลุ่มนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย มีอายุมาตรฐานระหว่าง 20 - 29 ปี

- กลุ่มประชากรทั่วไป ที่มีอายุมาตรฐานตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป

การพัฒนา A-O

การพัฒนา A-O

• ในปี 1936 อัลพอร์ตและออกเบิร์ตได้รวบรวมคำคุณศัพท์ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้กับบุคลิกภาพของมนุษย์

ที่ครอบคลุมในหลายด้าน ประมาณ 4000 คำ มาจัดได้ 180 กลุ่มโดยใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบของ

สเปียร์แมนและคนอื่น

• จากนั้นใช้วิธีการหาค่าสหสัมพันธ์ให้เหลือ 45 กลุ่ม

• ใช้วิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบจนได้องค์ประกอบ

บุคลิกภาพ 15 องค์ประกอบ

• ต่อมามีการตัดองค์ประกอบบางตัวที่ไม่

เหมาะสมออกให้เหลือเพียง 12 องค์ประกอบ

การพัฒนา Q

การพัฒนา Q

• เป็นองค์ประกอบที่ไม่ได้คิดค้นขึ้นมาจากการวิเคราะห์ทางภาษา แต่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันจึงรวมองค์ประกอบ Q เข้าไปในแบบทดสอบด้วย

• ต่อมาองค์ประกอบ Q นี้กลายเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญ

เทียบเท่ากับองค์ประกอบอื่น ๆ

• กลายเป็นองค์ประกอบบุคลิกภาพ 16 องค์ประกอบในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์

ความเที่ยงตรง

คุณสมบัติ

ความเชื่อมั่น

คุณสมบัติแบบทดสอบ

2

3

1

4

วัตถุประสงค์

1.ใช้ในการให้คำปรึกษา

1

ทำให้ผู้ให้คำปรึกษาเข้าใจในตัวผู้มารับบริการได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้รับบริการรู้จักและเข้าใจตนเองดีขึ้น

2.ใช้ในการคัดเลือก ในวงการใหญ่ 2 วงการ ดังนี้

2

-วงการศึกษาเพื่อคัดเลือก

นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าศึกษาในโรงเรียน หรือสถาบันต่าง ๆ

-วงการเกี่ยวกับบุคลากร

เพื่อคัดเลือกบุคลากร

ในวงการต่าง ๆ ทั้งองค์การ

ของเอกชนหรือหน่วยงาน

ของราชการ

3.ใช้ในการแนะเนว สามารถนำไปใช้ในโครงการแนะแนว 2 โครงการใหญ่ คือ

- การแนะแนวการศึกษา

เพื่อวางแผนการศึกษา

ในอนาคตของนักเรียน

ให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ

3

- การแนะแนวอาชีพ เพื่อประกอบเป็นแนวทาง

ชี้แนะบุคคลให้รู้ถึงลักษณะของตนเองว่าเหมาะสมกับอาชีพใด

4.การวิจัย

4

สามารถนำไปใช้ในงานวิจัยเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ความเที่ยงตรง

- ต่างประเทศ

- ในประเทศ

ความเที่ยง

ต่างประเทศ

ต่างประเทศ

แคลเทล กล่าวถึงความเที่ยงตรง

ของแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF โดยมีความเที่ยงตรงดังนี้

ต่างประเทศ

1. ความเที่ยงตรงตามโครงสร้าง

2. ความเที่ยงตรงตามเกณฑ์สัมพันธ์

ในประเทศไทย

ในประเทศ

1954

  • ประภา เชื้อภักดี (2526) ได้นำแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF มาเรียบเรียงเป็นภาษาไทยโดยให้คำถามแต่ละข้อนี้มีความหมายตรงกับความหมายเดิมให้มากที่สุด

  • ปี พ.ศ. 2533 คณะนักจิตวิทยาสังกัดกรมการแพทย์ ได้นำมาปรับปรุงข้อคำถามให้เหมาะสม และมีความหมายตรงมากขึ้น ซึ่งฉบับนี้เป็นฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน

ความเชื่อมั่น

ความเชื่อมั่น

ประเทศไทย

ในประเทศ

ประภา เชื้อภัคดี

กับพยาบาลโรงพยาบาล

รามาธิบดี ได้ศึกษา

ความเชื่อมั่นของแบบ

ทดสอบโดยใช้วิธีทดสอบซ้ำ (test – retest)

ได้ค่าความเชื่อมั่นขององค์ประกอบบุคลิกภาพทั้ง 16 ด้าน ดังนี้

1

องค์ประกอบ A

= 0.88

5

องค์ประกอบ F

= 0.65

2

6

องค์ประกอบ B

= 0.68

องค์ประกอบ G

= 0.81

7

3

องค์ประกอบ H

= 0.88

องค์ประกอบ C

= 0.69

8

4

องค์ประกอบ I

= 0.64

องค์ประกอบ E

= 0.80

9

13

องค์ประกอบ L

= 0.98

องค์ประกอบ Q1

= 0.61

14

10

องค์ประกอบ Q2

= 0.82

องค์ประกอบ M

= 0.83

11

15

องค์ประกอบ N

= 0.65

องค์ประกอบ Q3

= 0.82

16

12

องค์ประกอบ Q4

= 0.98

องค์ประกอบ O

= 0.86

ต่างประเทศ

- ได้มีผู้ทำการศึกษาค่าความ

เชื่อมั่นของแบบทดสอบ

บุคลิกภาพ 16 PF ทั้ง

ฟอร์ม A และ B ได้ค่า

ความเที่ยงเท่ากับ 0.70

ต่างประเทศ

- The Manual for the 16 PF ได้รับรายงานค่าความเชื่อมั่น

ซึ่งหา โดยวิธี test-retest ได้ค่าความเที่ยง 0.58 - 0.83

การแปลความหมาย

การแปลความหมาย

1.พิจารณาจาก

คะแนนมาตรฐาน

Standard score

นำคะแนนที่ได้มา plot ลงใน profile ซึ่งมีคะแนนตั้งแต่ 1-10

1.

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานที่ 5 หรือ 6เป็นคะแนนเฉลี่ย

หมายถึง มีองค์ประกอบบุคลิกภาพในองค์ประกอบน้ั้นเหมือนคนส่วนใหญ่

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานที่ 4 หรือ 7 เป็นคะแนนที่เบี่ยงเบนเล็กน้อย

2.

หมายถึง มีองค์ประกอบบุคลิกภาพในองค์ประกอบน้ั้นมี

แนวโน้มไปทางใดทาง หนึ่งเพียงเล็กน้อย

3.

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานที่ 2,3,8,9 เป็นคะแนนที่เบี่ยงเบนจากปกติค่อนข้างมาก

หมายถึง

มีองค์ประกอบบุคลิกภาพที่มี

แนวโน้มไปทางใดทางหนึ่งค่อน

ข้างมาก

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐาน

ที่ 1 หรือ 10 เป็นคะแนนที่เบี่ยงเบนจากปกติ

มากที่สุด

หมายถึง

มีองค์ประกอบบุคลิกภาพที่มี

แนวโน้ม ไปทางใดทางหนึ่งของแต่ละข้อ อย่างสุดขั้ว

4.

2.พิจารณาจาก ความหมายของ แต่ละองค์ประกอบ

ถ้าคะแนนไปตกอยู่ใกล้ลักษณะองค์ประกอบบุคลิกภาพใด บุคลิกภาพน้ั้น

มีแนวโน้มที่จะมีลักษณะแบบน้ั้นซึ่งลักษณะพวกน้ั้นจะเป็นอุปนิสัยต้นตอ (Source traits) ซึ่งมีทั้งหมด 16 ด้าน

การแปลความหมายจาก

องค์ประกอบ บุคลิกภาพ

แต่ละด้าน

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 10

1.

จะมีลักษณะ ชอบสังคม ปรับตัวง่าย

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 2,3

2.

มีลักษณะค่อนข้างแยกตัวและปรับตัวยาก

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 8,9

3.

มีลักษณะค่อนข้างชอบสังคมและ ปรับตัวง่าย

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 4

4.

มีแนวโน้มที่จะแยกตัวและปรับตัวยาก

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 7

5.

มีแนวโน้มที่จะชอบสังคมและปรับตัวง่าย

ผู้ที่ได้คะแนนมาตรฐานในองค์ประกอบบุคลิกภาพ A เท่ากับ 5

6.

มีลักษณะกลางๆ คือ ไม่ถึงกับมีแนวโน้มชอบสังคมหรือแยกตัว

ประเมินผลแบบทดสอบ

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ

แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 PF

ประเมินผล แบบทดสอบ

ในประเทศ &

ต่าง

ประเทศ

กุลธิดา รงค์จิตประภัสร์ (2535)

ได้สร้างเกณฑ์ปกติของแบบทดสอบบุคลิกภาพ (ฟอร์ม A) ในนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเขต กทม. เพื่อให้ทราบ

ความแตกต่าง ของบุคลิกภาพ 16 ด้าน ระหว่างนศ.ชาย

และนศ.หญิง

กุลธิดา รงค์จิตประภัสร์ (2535)

พบว่า นักศึกษาชายมีลักษณะบุคลิกภาพแตกต่างจากนักศึกษาหญิง ดังนี้

องค์ประกอบ A ไว้ตัว - ชอบสังคม

1

2

องค์ประกอบ B การใช้เหตุผลต่ำ - การใช้เหตุผลสูง

3

องค์ประกอบ C อารมณ์อ่อนไหว - อารมณ์มั่นคง

4

องค์ประกอบ G ชอบตามใจตนเอง - มีมโนธรรม

Leaderboard

5

องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ - ช่างสงสัย

6

องค์ประกอบ L มีความไว้วางใจ - ช่างสงสัย

7

องค์ประกอบ M ลงมือปฏิบัติ - สร้างจินตนาการ

8

องค์ประกอบ O จิตใจสงบมั่นคง - วิตกกังวล

องค์ประกอบ Q4 อารมณ์ผ่อนคลาย - อารมณ์ตึงเครียด

9

สตาร์ (Star ,1968)

สตาร์ (Star ,1968)

ศึกษาบุคลิกภาพของครู จำนวน 38 คน ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง

ในประเทศอังกฤษ โดยใช้แบบทด สอบบุคลิกภาพ 16 PF (ฟอร์ม B) และให้ครใูหญ่ ประเมินความ สามารถในการ สอนของครูด้วย

ครูที่ได้รับการประเมินความสามารถในการสอนสูงมีลักษณะ ดังนี้

ไว้ตัว (A-)

ชอบความสะดวกสบาย (G-)

อนุรักษ์นิยม (Q1-)

พึ่งกลุ่ม (Q2-)

มีความไว้วางใจ(L-)

จริงใจเปิดเผย (N-)

ครูที่ได้รับการประเมินความสามรถในการสอนต่ำมีลักษณะ ดังนี้

มีความเชื่อมั่นในตนเอง จิตใจเข้มแข็ง (I-)

มีอารมณ์มั่นคง (C+)

คล่องแคล่ว (N+)

ชอบการทดลอง (Q1+)

Learn more about creating dynamic, engaging presentations with Prezi