สมรรถนะที่ต้องพร้อมก่อนไปอ.2

LIST

KEY

TIMES

พ่อแม่ทำอะไร

ได้บ้าง

สิ่งที่มุ่งหวัง

แสดงความแข็งแรงและประสานการทำงานของ

กล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็ก

ร่างกาย

สามารถใช้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น การเห็น ได้ยิน กายสัมผัสเป็นการนำในการเคลื่อนไหว

แสดงความแข็งแรงและความทนทานของ

ร่างกาย

ใช้ทักษะทางร่างกายในการช่วยเหลือและดูแลตนเองได้

สิ่งที่มุ่งหวัง

มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่และเพื่อนวัยเดียวกัน

ปฏิบัติตามกฎระเบียบ กิจวัตร

ประจำวันและสามารถควบคุมอารมณ์ได้ตามสมควร

อารมณ์

ตระหนักรู้ว่าพฤติกรรมมีผลกระทบต่อบุคคลและสิ่งแวดล้อม

แสดงความเชื่อมั่นในความสามารถของตน

เห็นคุณค่า และยอมรับนับถือความ

เหมือนและความแตกต่างของแต่ละบุคคล

สามารถรับรู้เกี่ยวกับตนเอง รู้ว่าตนเองขอบหรือ

ไม่ชอบอะไร

สิ่งที่มุ่งหวัง

แสดงความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุและผล

การคิดอย่างมีวิจารณญาณ สามารถเปรียบเทียบ แยกแยะความเหมือน ความแตกต่าง และประเมินประสิทธิภาพ เพื่อแก้ปัญหาได้

สามารถแสดงพฤติกรรมอยากรู้อยากทดลอง โดยการมอง การฟัง การถาม จับต้องและ

ลงมือทำเกี่ยวกับสิ่งแวด

ล้อมที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิตต่าง ๆ

การคิดและ

สติปัญญา

สามารถจดจ่อกับการทำกิจกรรมด้วยความตั้งใจ

สอนการอ่านผ่านภาษาธรรมชาติ

ทำเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ขณะอ่านนิทานร่วมกับลูก

พูดคุยถึงคำและตัวเลข

ต่างๆที่คุณเห็นตอนที่ออก ไปข้างนอก หรือในนิทาน

Reading

ทำให้การอ่าน

เป็นเรื่องสนุก

ของทุกๆวัน

ตอนอ่านให้ลูกฟัง ใช้นิ้วชี้ให้ลูกดูตามคำที่อ่าน ชี้รูปภาพและ

พูดคุยกันถึงเรื่องราวในนิทาน

หลีกเลี่ยงสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจขณะที่อ่านหนังสือกับลูก เช่น ควรปิดโทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ

ชวนลููกอ่านสิ่งต่างๆหลากหลาย เช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ห่อขนม กล่องต่างๆ เล่นเกมเกี่ยวกับตัวอักษร ตัวเลข

แสดงให้ลูกเห็นถึงการดูแลหนังสือ เช่น การพลิก

หน้าอย่างระมัดระวัง

การเขียนที่ไม่เน้นเรื่องเขียน

ส่งเสริมให้ลูกได้ช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน เช่น เก็บม้วนผ้าห่ม ใช้ช้อนส้อมรับประทานอาหารเอง ช่วยจัดโต๊ะอาหาร

ใช้เวลากับลูกในการออกกำลังมือและนิ้วมือ เช่น ปั้นดิน ทุบดิน ขยำกระดาษ ฉีดน้ำจากฟ๊อกกี้ ฉีกกระดาษ บิดผ้า ใช้นิ้ว

ทากาว สร้างหรือต่อบล็อก

Writing

พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กนำไปสู่

การเขียน

ชวนลูกทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือ นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ เช่น ใช้ไม้หนีบคีบลูกปัด ไขกุญแจ หมุนน็อต ใช้ไม้หนีบผ้าหนีบผ้า

พาลูกทำกิจกรรมที่ต้องใช้ตาและมือในการประสานการทำงานร่วมกัน เช่น ใช้มีดพลาสติกหั่นผัก ร้อยลูกปัด ใช้กรรไกรตัดกระดาษ

เข้าใจตนเองนำไปสู่การเข้าใจผู้อื่น

ชวนลูกพูดคุย เปิดโอกาสให้ลูกแสดงความคิด เห็น รับฟังลูกในมุมของลูก

พาลูกทำกิจกรรมที่ต้องเล่นเป็นกลุ่ม ผลัดกันเล่น ฝึกการรอคอย ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ เช่น เล่นซ่อนแอบ แข่งกันต่อบล็อก สลับกันโยนบอลลงตะกร้า

Social Studies

อารมณ์ การปรับตัว การเข้าสังคม

ชวนลูกเล่นบทบาทสมมติ เป็นตัวละครที่ลูกชอบในนิทาน หรือสมมติเป็นอาชีพต่าง ๆ เช่น หมอ แม่ค้า ตำรวจ

ชื่นชมให้กำลังใจ จับถูกมากกว่าจับผิด ให้โอกาสลูกที่จะลองผิดลองถูก ให้เวลาลูกในการแก้ปัญหาและทำซ้ำๆ

ชวนลูกเรียนรู้และพัฒนาทักษะการดูแลอารมณ์ตน

เองขณะเกิดอารมณ์

สังเกต ตั้งสมมติฐาน ทดลอง เรียนรู้และเข้าใจผ่านธรรมชาติ

พาลูกเล่นเกมนำปัญญา เช่น ทายชื่อสัตว์ ผลไม้ จับกลุ่มลูกบอลที่ีสีเหมือนกัน ปิดตาทายสิ่งของที่หายไป

ชักชวนลูกคิดด้วยการตั้งคำถามและเปิดโอกาสให้ลูกทดลองทำด้วยตนเอง เช่น ถ้าเอาน้ำใส

่ช่องแข็งน้ำจะเป็นอย่างไร ทายว่าสิ่งใดจะลอย สิ่งใดจม

Science

การคิดและสติปัญญา

พาลูกสังเกตการเจริญเติบโตของธรรมชาติ เช่น ปลูกถั่วงอกแล้ว

สังเกตความเปลี่ยนแปลง

ชวนลูกใช้นิ้วนับสิ่งของในชีวิตประจำวัน เช่น นับจาน นับผลไม้ นับใบไม้

ความมั่นคง และมั่นใจในตนเองเริ่มที่กาย

ให้ลูกมีโอกาสในการช่วยออกแรง เช่น ยกของ หิ้วของ ลากของที่มีน้ำหนัก

ประมาณ 1 กิโลกรัม ระยะทางสั้นๆ

จัดกิจกรรมให้ลูกได้ใช้แรงในการเล่นและออกกำลังอย่าต่อเนื่องวันละ 15 นาที เช่น

รับส่งบอล ปั่นจักรยาน เตะบอล

physical

สร้างความแข็งแรงของร่างกาย

ชวนลูกเล่นเกมที่มีกติกาง่าย ๆ ที่ต้องผลัดกันเล่น เช่น วิ่งแแปะแข็ง วิ่งเปรี๊ยว

พาลูกเดินเล่น ชี้ชวนให้ดูต้นไม้ สีของดอกไม้ ลักษณะใบไม้ต่าง ๆ สังเกตธรรมชาติรอบตัว สำรวจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ ต่าง ๆ เช่น มด นก หอยทาก ไส้เดือน ตั๊กแตน

เสริมสร้างกล้ามเนื้อมือมัดเล็กและมัดใหญ่ การวางแผนการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน โดยการชวนลูกทำงานบ้าน เช่น ล้างตัดกล่องนม ถูบ้าน รดน้ำต้นไม้

HOMEWORK