Introducing 

Prezi AI.

Your new presentation assistant.

Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.

Loading…
Transcript

การดำเนินชีวิตที่ดี (Good Life) ของเยาวชนไทยยุคโซเชียลมีเดีย

จัดทำโดย กลุ่ม sky

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ในสังคมปัจจุบันเราทุกคนก็อยากมีชีวิตที่ดีงามกันดังนั้นเพราะเมื่อเราเกิดมาแล้วเราต้องรู้คุณค่าของตัวเองก่อนดังนั้นคนเราทุกคนจะมีความสุขอย่างแท้จริงได้นั้น ต้องมีการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องดีงาม คือ ต้องปฏิบัติถูกต้องต่อชีวิตตนเองต่อผู้อื่น ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทางวัตถุทั่วไป รวมทั้งทางธรรมชาติ ทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ คนที่รู้จักดำเนินชีวิตได้ถูกต้องย่อมมีชีวิตที่ดีงาม และมีความสุขที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงการมีความสุขที่เอื้อต่อการมีความสุขของผู้อื่นด้วยทำให้เราเห็นว่าในชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั้นแสวงหาแต่ความสุขสิ่งที่ทำให้ชีวิตตนเรามีความเจริญอย่างมากแต่บางคนอาจแสวงหารในสิ่งที่ไม่มีจนหลงทำผิดไปเลยทำให้เราให้ความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตให้มีความดีงามมีชีวิตที่ดีความเป็นอยู่ที่ดีเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของเราอย่างมากเพราะโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้ผู้คนจัดการทุกเรื่องได้สะดวกง่ายดาย

ทว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของมนุษย์ทุกคนนั้น ไม่มีปุ่มกดให้เดินเครื่องทำงานแต่ต้องอาศัยการปฏิบัติด้วยความตั้งใจจริงในชีวิตประจำวันทำให้เราเลือกเล็งเห็นของแนวทางปฏิบัติในชีวิตประจำวันไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

สำหรับเยาวชนไทยยุคโซเซียลมีเดียนั้นยังต้องให้ความเข้าใจต่อคำว่าชีวิตที่ดีงามเพราะบางคนมีความหลงระเริงต่อสื่อโซเซียลมีเดียมากเกินจนไปจนทำให้ไม่มีการลืมหูลืมตารับรู้ความจริงในโลกสังคมปัจจุบันทำให้เรื่องของการศึกษาชีวิตที่ดีงามนั้นเป็นการสอดแทรกแนวทางความคิดมาปรับเปลี่ยนเยาวชนไทยหรือมนุษย์บุคคลอื่นให้มีการดำเนินรู้จักการใช้ชีวิตให้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่ทำให้เยาวชนไทยนั้นมีการดำรงชีวิตที่ทำให้เกิดความคิดเริ่มที่จะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการดำเนินชีวิตของตนเองในทางโซเซียลมีเดียมากเกินไปทำให้มีการใช้ความคิดเพื่อพัฒนาเปลี่ยนแนวทางชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นและมีจุดมุ่งหมายในการดำเนินชีวิตในอนาคตมากขึ้นอีกด้วยพร้อมกับใช้ประโยชน์ทางด้านสังคมในโซเซียลนั้นที่มีการแลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรมมากขึ้นมีเพื่อนในสังคมเครือมาก

แต่หากมีการรับสิ่งที่ไม่ดีมาใช้ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้หรือเลือกที่จะใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมก็ทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้เหมือนกัน เช่น การติดเกมส์ การซื้อสินค้าผิดกฎหมาย และเนื่องจากเทคโนโลยีเข้าถึงง่ายมีความสะดวกสบายในการใช้พร้อมทั้งการที่จะควบคุมดูแลก็อาจไม่ทั่วถึงเพราะเทคโนโลยีมีคอบเขตที่กว้างขว้างดังนั้นจึงต้องมีการศึกษาเทคโนโลยีและเลือกใช้อย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

1.1เพื่อศึกษาเกี่ยวกับชีวิตที่ดีงามตามความเข้าใจของเยาวชนไทย

1.2เพื่อศึกษาถึงวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เกิดมีชีวิตที่ดีงามตามความเข้าใจของเยาวชนไทย

1.3เพื่อศึกษาถึงการนำแนวคิดเกี่ยวกับชีวิตที่ดีงามและวิธีการปฏิบัติไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

วิธีการดำเนินการศึกษา

ขอบเขตการศึกษา

*ขอบเขตด้านเนื้อหา*คือศึกษาจากเอกสารต่างๆศึกษาจากข้อมูลทฤษฎีต่างๆศึกษาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตโดยศึกษาเอกสารจากหอสมุดมหาวิทยาลัยนเรศวร

*ขอบเขตด้านพื้นที่*คือศึกษาในมหาวิทยาลัยนเรศวรเพราะมีเยาวชนไทยมาจากหลายที่เช่นภาคเหนือ,ภาคกลางและอื่นๆเลยเหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่ในการศึกษาเกี่ยวกับเยาวชนไทยในยุคมีเดียทางด้านชีวิตที่ดีงาม

กลุ่มตัวอย่าง

ได้สัมภาษณ์นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรจำนวน 10 คน โดยเลือกจากเพื่อนในเอกประวัติศาสตร์และสาขาอื่นๆในมหาวิทยาลัยนเรศวร ในชั้นปีที่3

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

ได้ใช้แบบการสัมภาษณ์โดยได้กำหนดข้อคำถามแล้วให้กลุ่มตัวอย่างตอบโดยผู้สัมภาษณ์จะเป็นคนเขียนตอบในกระดาษและมีจากการอัดเทปการสัมภาษณ์ของกลุ่มตัวอย่างในการตอบคำถามแล้วผู้สัมภาษณ์จะเป็นคนถอดคำมาเขียนตอบในกระดาษเอง (แบบสอบถามในภาคผนวก)

โดยกำหนดแบบสัมภาษณ์เป็นแบบไหนสัมภาษณ์เชิงลึกเจาะตัวคำถามไปเลย มีการกำหนดคำถามเองในบางส่วนแต่มีการครอบคลุมอยู่ในกรอบของคำถาม

การเก็บรวบรวมข้อมูล

การเก็บรวบรวมข้อมูล

มีการรวบรวมข้อมูลด้านเนื้อหาด้วยวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาเอกสารจากหอสมุดมหาวิทยาลัยนเรศวร เก็บข้อมูลจากเอกสารต่างๆในเว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต เช่น บทความ วารสาร e-book

มีการรวบรวมข้อมูลด้านพื้นที่คือเลือกเอากลุ่มตัวอย่างในการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวรโดยคิดว่าเป็นพื้นที่ที่มีนิสิตมาจากต่างถิ่นได้อยู่กันเยอะ เช่น ภาคเหนือ ภาคกลาง

การวิเคราะห์ข้อมูล

ในการวิเคราะห์ข้อมูลนั้นได้วิเคราะห์จากแนวคำตอบจากการตอบคำถามของกลุ่มตัวอย่าง โดยดูจากการฟัง พูดของกลุ่มตัวอย่างว่ามีความรู้สึกนึกคิดอย่างไรต่อหัวข้อที่ว่าการดำเนินชีวิตที่ดี(GoodLife)ของเยาวชนไทยยุคโซเชียลมีเดียโดยดูจากการเลือกเอาแนวความคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่ดีงามมาถามในด้านความคิดเห็นเพื่อนำเอามาวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป

แนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้อง

มีแนวคิดและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับ “ชีวิตที่ดีงาม (Good life)” มีดังนี้ คือ

ทฤษฏีสุขนิยม

ทฤษฏีสุขนิยม

*ความสุขสบาย(pleasure)เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหา ไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการ การกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย

ทฤษฏีปัญญานิยม

ทฤษฏีปัญญานิยม

*กลุ่มความรู้ความเข้าใจหรือบางครั้งอาจเรียกว่ากลุ่มพุทธินิยมเป็นกลุ่มที่เน้นกระบวนการทางปัญญาหรือความคิด

นักคิดกลุ่มนี้ได้ขยายขอบเขตของความคิดที่เน้นทางด้านพฤติกรรมออกไปสู่กระบวนการทางความคิดซี่งเป็นกระบวนการภายในสมอง

ทฤษฏีวิมุตตินิยม

*พวกที่เชื่อว่าความสงบของจิตและการหลุดพ้นตัณหาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของชีวิต นักจริยศาสตร์กลุ่มนี้ได้แก่พวกซินนิค(Synicism) พวกสโตอิค(Stoic) และศาสนาต่างๆเช่น พุทธศาสนา คริสต์ศาสนา รวมทั้งปรัชญาอินเดียโดยทั่วไป

ทฤษฏีวิมุตตินิยม

ทฤษฏีมนุษยนิยม

*เป็นทรรศนะความเป็นมนุษย์และมองมนุษย์ว่ามีคุณค่ามีความดีงามมีความสามารถมีความต้องการและมีแรงจูงใจภายในที่จะพัฒนาศักยภาพของตนหากบุคคลมีอิสรภาพและเสรีภาพมนุษย์จะพยายามพัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

ทฤษฏีภาวนา 4 ในพุทธปรัชญา

ทฤษฏีภาวนา 4 ในพุทธปรัชญา

*เป็นสิ่งที่จะทำให้ถึงความบรรลุธรรม การพัฒนา การอบรม การพัฒนาจิตใจ

ผลการศึกษา

ผลการศึกษา

จากแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ดีของเยาวชนไทยยุคโซเซียลมีเดียของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรจำนวน 10 คน

จากแบบสอบถามตอนที่1จะเห็นได้ว่านิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรเกือบทุกคนประมาณร้อยละ95%นั้นมีการใช้โซเซียลมีเดียทุกวันและระยะเวลาการใช้สื่อโซเซียลมีเดียนั้นก็มีมากกว่า3ชั่วโมงในแต่ละวันอีกด้วย

จากแบบสอบถามตอนที่2 ี่เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่ดีของเยาวชนไทยยุคโซเซียลมีเดียนั้นจะเห็นได้จากแบบสอบถามดังต่อไปนี้

แบบสอบถาม

ข้อที่ 1. นิสิตมองว่าชีวิตที่ดีงามคือชีวิตแบบใด?

"

จะเห็นได้ว่านิสิตประมาณ70%นั้นได้มีความคิดเห็นส่วนใหญ่ว่าชีวิตที่ดีงามนั้นเป็นชีวิตที่มีความสุขประสบผลสำเร็จในทุกอย่าง

อีก20%นั้นได้ตอบว่าเป็นชีวิตที่เลี้ยงพ่อแม่ให้มีความสุขสบายได้

ส่วน 10% ที่เหลือนั้นเป็นชีวิตที่ร่ำรวยมีเงินทอง

"

ข้อที่ 2. นิสิตมองว่าการดำเนินชีวิตตามทฤษฏีใด ถือเป็นการดำเนินชีวิตที่ดีและมีคุณค่า? เพราะเหตุใด?

"

จากคำตอบจะเห็นได้ว่านิสิตประมาณ70%ได้มีความคิดเห็นที่ว่าการดำเนินชีวิตที่ดีและมีคุณค่านั้นต้องดำเนินตามทฤษฎีสุขนิยมเพราะในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรแสวงหาไม่มีอะไรอีกนอกจากความสุขสบายของชีวิตที่มนุษย์ต้องการการกระทำทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เพื่อความสุขสบาย

ส่วน30%ที่เหลือนั้นตอบว่าทฤษฏีมนุษยนิยมเพราะความเป็นมนุษย์และมองมนุษย์ว่ามีคุณค่ามีความดีงามมีความสามารถมีความต้องการและมีแรงจูงใจภายในที่จะพัฒนาศักยภาพของตนหากบุคคลมีอิสรภาพและเสรีภาพมนุษย์จะพยายามพัฒนาตนเองไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

"

ข้อที่ 3. นิสิตมองว่า วิถีการปฏิบัติเพื่อให้เกิดชีวิตที่ดีงามได้ (ตามข้อ1และ2) จะต้องประพฤติปฏิบัติตนแบบใด?

"

จากคำตอบจะเห็นได้ว่านิสิตประมาณ80%ตอบว่าเป็นคนดีมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นคนที่มีศีลธรรม

ส่วน20%ที่เหลือนั้นตอบว่าควรตั้งใจเรียนขยันอ่านหนังสือๆไม่ใช้โซเซียลในทางที่ผิดๆ

"

ข้อที่4 .นิสิตมองว่าเราสามารถนำวิถีการปฏิบัติเพื่อให้เกิดชีวิตที่ดีงามได้ (ตามข้อ3) มาปรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตในยุคโซเชียลมีได้อย่างไร ?

"

นิสิตจำนวน50%นั้นมีความคิดเห็นในทางเดียวกันที่ว่าสามารถใช้เป็นสื่อในการนำมาเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือทางสังคมได้และยัง เป็นสื่อที่สามารถหาความจรรโลงใจให้แก่ตัวเองได้

ส่วนอีก50%มีความเห็นที่ว่าเป็นตัวที่ช่วยให้เราใช้สื่อโซเซียลให้มีคุณค่าไม่จมปลักยึดติดในโซเซียลจมเกิดโทษแก่ตนเอง เป็นแนวทางในการใช้เสพสื่ออย่างมีคุณค่านั้นเอง

"

ข้อที่ 5. การพัฒนาสิ่งใดจำเป็นที่สุด (ตามหลักภาวนา4) เพื่อก่อให้เกิดชีวิตที่ดีงามได้ และมีการปฏิบัติตนเช่นไร ?

"

จะเห็นได้ว่านิสิตจำนวน 80% นั้นตอบว่า จิตภาวนากัน และมีการปฏิบัติตัวคือการเจริญจิต, พัฒนาจิต, การฝึกอบรมจิตใจ ให้เข้มแข็งมั่นคงเจริญงอกงามด้วยคุณธรรมทั้งหลาย เช่น มีเมตตากรุณา ขยันหมั่นเพียร อดทนมีสมาธิ และสดชื่น เบิกบาน เป็นสุขผ่องใส

นิสิตประมาณอีก10%ตอบว่าปัญญาภาวนามีการปฏิบัติตัวคือทำให้ตัวเองมีความให้รู้เข้าใจสิ่งทั้งหลายตามเป็นจริงรู้เท่าทันเห็นโลกและชีวิตตามสภาวะสามารถทำจิตใจให้เป็นอิสระทำตนให้บริสุทธิ์จากกิเลสและปลอดพ้นจากความทุกข์ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยปัญญา

ส่วนอีก10% ที่เหลือ ตอบว่ากายภาวนาภาวนา มีการปฏิบัติตัวคือการพัฒนาร่างกายให้แข็งแรง ไร้โรค มีสุขภาพดี และที่สำคัญก็คือการพัฒนาความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เริ่มแต่ปัจจัย 4 เป็นต้นไป อย่างถูกต้องดีงาม ในทางที่เป็นคุณประโยชน์ เช่น สัมพันธ์กับอาหาร โดยการกินเพื่อช่วยให้ร่างกายมีกำลัง มีสุขภาพดี ไม่ใช่เพื่อมุ่งความอร่อย อวดโก้ แสดงฐานะ สัมพันธ์กับโทรทัศน์ โดยดูเพื่อติดตามข่าวสาร แสวงหาความรู้ส่งเสริมปัญญามิใช่เพื่อหมกมุ่นในความสนุกสนานเพลิดเพลินหรือเอาเป็นเครื่องมือเล่นการพนัน

"

ข้อที่ 6. นิสิตคิดว่าในยุคโซเซียลมีเดียมีข้อดีหรือไม่ที่ทำให้เรามีการพัฒนาชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีบทบาทอย่างไรที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ?

"

จะเห็นได้ว่านิสิตจำนวน80%นั้นได้มีความคิดเห็นที่ว่ายุคโซเซียลนั้นมีข้อดีในการที่จะทำให้เราพัฒนาชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้เนื่องจากถ้าเรารู้ในการใช้สื่อที่มีประโยชน์เราก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งที่สนใจร่วมกันได้เป็นคลังข้อมูลความรู้ขนาดย่อมเพราะเราสามารถเสนอและแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนความรู้หรือตั้งคำถามในเรื่องต่างๆเพื่อให้บุคคลอื่นที่สนใจหรือมีคำตอบได้ช่วยกันตอบประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับคนอื่นสะดวกและรวดเร็วคลายเครียดได้สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการหาเพื่อนคุยเล่นสนุกๆหาความจรรโลงใจได้ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีอีก

ส่วนนิสิตอีก 20% มองว่ายุคโซเซียลไม่มีข้อดีในการพัฒนาชีวิตให้ดีงามได้เนื่องจากถ้าผู้ใช้หมกมุ่นอยู่กับ socialnetworkมากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้จะทำให้เสียเวลาถ้าผู้ใช้ใช้อย่างไร้ประโยชน์และSocialNetworkเป็นสังคมออนไลน์ที่กว้างหากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณอาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ตหรือการนัดเจอกันเพื่อจุดประสงค์ร้ายตามที่เป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์

"

สรุป

สรุป

จากแบบสอบถามการดำเนินชีวิตที่ดี(GoodLife)ของเยาวชนไทยยุคโซเชียลมีเดียนั้นทำให้เราเห็นว่าในปัจจุบันโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นสิ่งที่นิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นและบุคคลที่ต้องการสื่อสารสัมพันธ์กันแม้ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คจะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถติดต่อสัมพันธ์กันในทางบวกแต่จากการศึกษาพบว่าในทางกลับกันโซเชียลเน็ตเวิร์กก็สามารถเป็นสื่อที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ในเวลาเดียวกันจนทำให้ยุตโซเซียลมีเดียเข้ามามีบทบาทมีการพัฒนาสื่ออย่างต่อเนื่องและเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของคนเราจนสามารถเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตกิจวัตรประจำวันไปเลย

ทั้งนี้ในการใช้โซเซียลมากเกินทำให้เราเล็งเห็นถึงการมีชีวิตที่ดีงามการมองแนวทางปฏิบัติมองเห็นแนวคิดในการไม่ตกเป็นทาสของสื่อแต่ทว่าเราควรปฏิบัติตนให้มีคุณค่ารู้ซึ้งในเป้าหมายของตนเองมีการดำเนินชีวิตที่ดีควรแสวงหาความสุขความสบายของชีวิตที่มนุษย์อย่างเราต้องการมีแนวทางความคิดการปฏิบัติที่มาปรับเปลี่ยนโดยสามารถพัฒนาจากสื่อจากโซเซียลเอามาเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเราพัฒนามากขึ้น

เราควรรู้ค่าของโซเซียลเพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นและไม่ควรนำเอาสื่อโซเซียลมาทำลายชีวิตตัวเองไปในทางที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณในการเสพสื่อและมนุษย์หรือเราทุกคนไม่ควรนำเทคโนโลยีโซเชียลเน็ตเวิร์กในโลกออนไลน์เข้ามาครอบงำในการดำเนินชีวิตและมีบทบาทในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมากได้ทำให้เรารู้ถึงการมีชีวิตที่งามเพราะแน่นอนว่าเมื่อเราเกิดขึ้นมาบนโลกนี้ล้วนต้องแสวงหาสิ่งที่เรียกกันว่า ความสุขหรือความอิ่มเอิบใจกันแทบทุกคนเพราะคงไม่มีใครที่ชอบความทุกข์หรือทรมานใจเป็นแน่

สำหรับชีวิตที่มีความสุขเป็นอย่างไรนั้นตรงนี้ยากจะบอกได้เพราะแต่ละคนมีมาตรฐานความพึงพอใจอันจะนำมาซึ่งความสุขแตกต่างกันบางคนมีพอใจกับการมีเงินมากบางคนมีความสุขกับชีวิตที่เรียบง่ายก็ว่ากันไปตามสิ่งที่เราต้องการและควรปฏิบัติแบบมีสติใช้ชีวิตอย่างมีสติมีศีลธรรมคุณธรรมในการดำเนินชีวิตที่งามและสามารถนำเอาหลักการพัฒนาตนเองให้ชีวิตที่ดีงามมาปรับหรือสอดคล้องในยุคโซเซียลเพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีงามไม่หลงผิดกับโซเซียลจนมากเกินไป

Learn more about creating dynamic, engaging presentations with Prezi