ภาชนะ เช่น ถาด เพื่อใช้ในการใส่
ถ้วยชาม พร้อมบรรจุอาหารคาว
หรือหวานเป็นชุด เช่น สำรับคาว สำรับหวาน เป็นต้น
อาหารที่จัดเป็นชุด มีอาหารหลายอย่าง หลายรสชาติ หลายลักษณะ สามารถรับประทาน
ร่วมกันได้ รสชาติจะต้องไม่ขัดแย้งกัน โดยรวม
ต้องอร่อยเมื่อทานร่วมกัน
มักจัดในมื้อหลัก ได้แก่ เช้า กลางวัน และเย็น นิยมใส่ในถ้วย จาน ชาม ที่สวยงาม จากนั้น เมื่อจัด
เสร็จแล้วจะนำไปใส่ในสำรับ(ถาด โตก) แล้วแต่วัฒนธรรมท้องถิ่น
สะดวกต่อการรับประทานและบริการอาหาร เพราะจัดใส่
ภาชนะที่เหมาะสม
เหมาะสำหรับจัดเลี้ยงในโอกาสพิเศษ เพราะมีความประณีต
ในการจัดตกแต่งและบริการ
อาหารไทยมีหลากหลายชนิด มีเอกลักษณ์
แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ตามสภาพ
ภูมิศาสตร์เศรษญกิจ สังคม ความเชื่อ และ
ขนบธรรมเนียมประเพณี แบ่งออกได้เป็น
2 ประเภท คือ
2.1 แกงคั่ว มี 2 รส คือ เค็มหวาน
แกงขี้เหล็ก
ใช้น้ำพริกแกง ใส่กะทิ แต่พริกแกงไม่ใส่เครื่องเทศ ใช้ผักและเนื้อเป็นหลัก มี 2 ชนิดคือ
2.2 แกงคั่วส้ม มี 3 รส เปรี้ยว เค็ม หวาน
แกงเทโพ
ใช้น้ำพริกแกงแต่ไม่ใส่กะทิ ลักษณะออกสีส้ม มี 3 รสคือ เปรี้ยวนำเค็ม หวานเล็กน้อย มี 3 ชนิดคือ
3.3 แกงบอน
3.2 แกงส้มพริกแห้ง
3.1 แกงส้มพริกสด
ใช้พริกแกงเดียวกับแกงเผ็ด แต่เพิ่มเครื่องเทศเข้าไป ทำให้
แกงมี 3 รสมีมันลอยหน้าสีแดง
แกงมัสมั่นเนื้อ
แกงมัสมั่นหมู
แกงมัสมั่นไก่
ใช้พริกแกงเดียวกับแกงเผ็ด แต่ลดพริกแห้งผิวมะกรูดและเพิ่ม
ผงกระหรี่เข้าไปแทน ทำให้มีรสเค็ม
หวาน เผ็ดไม่มาก
เป็นแกงที่เผ็ดร้อนด้วย พริกไทย นิยมทานร้อนๆ
เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยและขิง มี 3 รส คือ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด
ปรุงให้มีรสชาติ เปรี้ยว เค็ม เผ็ด นิยมทานร้อนๆ
ต้มยำน้ำข้น
ต้มยำน้ำใส
มีน้ำเป็นส่วนประกอบมาก ต้องรับประทานร้อนๆ
1. แกงที่ใส่เครื่องแกง
2. แกงที่ไม่ใส่เครื่องแกง
แกงผักกากจอ
งบหมูปิ้ง
ข้าวแต๋น(นางเล็ด)
ขนมจ๊อก(ขนมเทียน)
อาหารหลัก คือ ข้าวเหนียว
อาหารหลัก คือ ข้าวเจ้า
น้ำปลาหวานทานคู่กับ
กุ้งเผา/ปลาดุกย่าง
น้ำพริกกะปิทานคู่กับ
ปลาทูทอดและกุ้งต้มเค็ม
รสเผ็ดจัด นิยมทานข้าวเป็นอาหารหลัก
แกงหอยแคลงกับใบชะพลู
ปลาต้มขมิ้น
ยำลูกมุด
บูดูหลน
จิ้งจังหลน
ขนมอาโป๊ง
ขนมเจาะหู
ขนมโค
ขนมหัวล้าน
ขนมกอและ
ขนมกง
ขนมกรวย