เลือกระยะเวลาที่คุณต้องการ
เรียนรู้ Forex ให้มาก
จัดระเบียบการเทรดให้ดี
1
3
5
2
4
ทดลองเทรดบ่อย ๆ
ตามตลาดให้ทัน
เรียนรู้การเปลี่ยนแปลง
ของกราฟ
ศึกษาเทคนิคต่าง ๆ ให้มาก
ซื้อ-ขาย ตามแนวโน้ม
10
6
8
7
9
หาจุดต่ำสุดและสูงสุดให้เจอ
ทำตามสัญญาณ
ตลอดเวลา
เช่น ไม่มีความรู้เบื้องต้นของข่าวที่มีผลกับกราฟ, ไม่รู้แนวโน้มและพฤติกรรมของราคา,
ขาดความรู้ในการวิเคราะห์กราฟทั้งทางเทคนิคและข่าวที่มีความสัมพันธ์กับตลาด
เทรดเดอร์บางท่านอาจจะยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ มองแนวโน้มไม่ออก
จึงทำให้หาจังหวะในการซื้อ-ขาย ได้ไม่ดีพอ
ลง ?
ขึ้น?
... % ต่อปี
... % ต่อเดือน
... % ต่อสัปดาห์
... % ต่อวัน
เทรดเดอร์บางคนไม่ได้วางแผนหลักการ Money Management หรือการ Take Profit / Stop Loss
บางคนมักจะหากลยุทธ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เมื่อเห็นว่าคนอื่นใช้กลยุทธ์นี้แล้วได้ผล
บางคนคิดว่าการเทรด Forex เป็นการพนันอย่างนึง จึงมักจะใช้การคาดเดามากกว่าการวิเคราะห์
คือ การเทรดเน้นทำกำไรแบบหาจังหวะเข้าที่แม่นยำ โดยการออก Lot จำนวนมาก
คือ กลยุทธ์การซื้อ-ขายที่เน้นทำกำไร ที่เทรดจบในวันเดียว ไม่ถือออเดอร์ข้ามคืน
คือ การเทรดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ขึ้นกับระยะเวลา การถือยาวหรือสั้นจะขึ้นอยู่กับ Timeframe ที่ใช้ เนื่องจากจังหวะที่เทรด เหมาะกับสภาวะตลาดที่มีการแกว่งตัวรุนแรงหรือสภาวะตลาดที่เป็น Sideway ทักษะเรื่องการมองกราฟราคาให้ออกว่าอยู่ในแนวโน้มแบบใดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
คือ การเทรดตามเทรน สิ่งสำคัญของการใช้กลยุทธ์สไตล์นี้คือ การอ่านเทรนให้ขาด มองเทรนใหญ่เป็นหลัก พูดง่าย ๆ ก็คือ การอ่านเทรนสำคัญกว่าหาจังหวะเข้า และเราจะต้องปล่อยกำไรให้วิ่งไปจนสุดเทรน
แล้วคุณล่ะ.... เป็นนักเทรดสไตล์ไหนกันบ้าง?
จริง ๆ แล้วกลยุทธ์การเทรดมีอยู่ 2 แบบ คือ
2. เทรดสวนเทรน
1. เทรดตามเทรน
บอกผลิตภัณฑ์ที่น่าเทรด
เพื่อให้คุณโฟกัสแค่ไม่กี่ผลิตภัณฑ์
เพื่อป้องกันการ overtrade
เข้าเทรดผลิตภัณฑ์ที่ได้เปรียบ
การได้ออเดอร์ในราคาที่ดีที่สุด ทำให้ได้กำไรมากขึ้น / ลดการขาดทุน ถ้าคุณเทรดต้นเทรนจะดีกว่าไหม?
EURUSD
10
XAUUSD
9.5
USDJPY
8.5
3. ระบบ RPG จะบอกว่าควรเข้าออเดอร์
ฝั่งไหนที่ได้เปรียบมากที่สุด
BUY
SELL
4.ใช้ปัจจัยทางเทคนิคในมุมมองที่กว้าง
5. มีฟังก์ชันในการจัดการออเดอร์ที่สะดวก
6. คุณจะมั่นใจได้ว่าคุณได้ของที่ดีที่สุด
ในราคาที่เหมาะสม
BUY
SELL
แนวโน้ม Trend คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคา ประกอบด้วย 3 ทิศทาง
3. แนวโน้มด้านข้าง Sideway
2. แนวโน้มขาลง Down Trend
1. แนวโน้มขาขึ้น Up Trend
การเทรดตามเทรนจะช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าขาดทุน เพราะการเทรดในรูปแบบนี้ถือเป็นการเทรดตามแนวโน้มของราคา ซึ่งเกิดจากการซื้อ - ขาย ของเทรดเดอร์ในตลาด Forex
Score : จะบอกถึงคะแนนความน่าสวนแนวโน้มหลัก
โดยจะให้คะแนนตั้งแต่ 1 - 10
Order : จะบอกคำสั่งซื้อ - ขายที่แนะนำ
B = Buy
S = Sell
ตัวเลข 1 = แนวโน้มถูกต้องตาม Indicator
ตัวเลข 2 = แนวโน้มถูกต้องตาม Indicator และมี Momentum
ตัวเลข 3 = แนวโน้มถูกต้องตาม Indicator แน่ๆ และมี Momentum
และมี Volume ด้วย
ตัว V = มีปริมาณ Volume เข้ามาและเหนือค่าเฉลี่ย
Product : ผลิตภัณฑ์หรือคู่เงินที่น่าเทรดตามแนวโน้มหลัก
Change : การเปลี่ยนแปลง
คำนวณจากราคาปิดเมื่อวานกับราคาปัจจุบัน
Trend : แนวโน้มหลัก ณ การวิเคราะห์ปัจจุบัน
+1 = Up Trend
-1 = Down Trend
0 = Sideway
+1 = Up Trend (ราคาเหนือค่าเฉลี่ย 22 และ 69 วัน)
-1 = Down Trend (ราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22 และ 69 วัน)
0 = Sideway (ราคาอยู่ในกรอบค่าเฉลี่ย และยังไม่เลือกทิศทาง)
Momentum : แรงส่ง / แรงขับ
(ดูเงื่อนไขเดียวกับ Trend และดู Momentum
ในกรอบ 22 กับ 69 วัน)
+2 คือ มีแรงส่งขา Buy เข้ามาอย่างต่อเนื่อง (รุนแรง)
+1 คือ มีแรงส่งขา Buy เข้ามาเหนือค่าเฉลี่ย
0 คือ ไม่มีแรงส่ง
-1 คือ มีแรงส่งขา Sell เข้ามาเหนือค่าเฉลี่ย
-2 คือ มีแรงส่งขา Sell เข้ามาอย่างต่อเนื่อง (รุนแรง)
Vol : ปริมาณาณซื้อขาย ใช้ปริมาณซื้อขายในกรอบ
15 นาทีที่มากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง
+1 คือ มีปริมาณซื้อเข้ามาเหนือค่าเฉลี่ย
0 คือ ปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
-1 คือ มีปริมาณขายเข้ามาเหนือค่าเฉลี่ย
S & P : ตำแหน่งปัจจุบันเมื่อเทียบกับ
เส้นแนวรับแนวต้านรายสัปดาห์
( 0 น้อยที่สุด , 7 มากที่สุด )
กรณี Sell
S0 ไม่น่า Sell เลย ราคาอยู่ต่ำกว่าแนวรับที่ 3 ถือว่าอยู่โซนล่างมากๆ
หาก Sell บริเวณนี้จะเสียเปรียบ หากต้อง Sell จริงๆ พยายามไม่ใส่ Lot เยอะ
S1 ราคาอยู่ระหว่างแนวรับที่ 2 และ 3 พยายามระวังเรื่อง Lot
S2 ราคาอยู่ระหว่างแนวรับที่ 1 และ 2 ราคาเริ่มแพงขึ้นสำหรับขา Sell
หากต้องการ Sell พยายามคุม Lot หน่อย
S3 ราคาอยู่ระหว่าง Pivot และแนวรับที่ 1 ราคาเริ่มมีความแพงในมุมมองฝั่ง Sell
บริเวณนี้เป็นต้นไปควรระวัง Sizing หน่อย
S4 ราคาอยู่ระหว่างแนวต้านที่ 1 และ Pivot มีความน่า Sell ตามแนวโน้ม
แต่ไม่ควรใส่ Position Size มาก
S5 ราคาอยุ่ระหว่างแนวต้านที่ 1 และ 2 มีความน่า Sell อยู่ เพราะราคายังอยู่เหนือเส้น Pivot
S6 ราคาอยู่ระหว่างแนวต้านที่ 2 และ 3 หากแนวโน้มขาลงก็ยังมีความน่า Sell อยู่พอสมควร
S7 ราคาอยู่สูงกว่าแนวต้านที่ 3 ถ้าแนวโน้มเป็นขาลงจะน่า Sell มาก ๆ
กรณี Buy
B0 ไม่น่า Buy เลย ราคาอยู่สูงกว่าแนวต้านที่ 3
B1 ราคาอยู่ระหว่างแนวต้านที่ 2 และ 3 หากจะหาจังหวะ Buy ให้ระวังเรื่อง Position Sizing ดี ๆ
B2 ราคาอยู่ระหว่างแนวรต้านที่ 1 และ 2 ราคาเริ่มขยับตัวสูงขึ้นให้ระวังเรื่อง Lot ดี ๆ
B3 ราคาอยู่ระหว่างแนวต้านที่ 1 และ Pivot คสรระวังเรื่อง Sizing บ้างแล้ว
เพราะราคาเริ่มขยับตัวมาเกินกรอบ Discount มากไปแล้ว
B4 ราคาอยู่ระหว่าง Pivot และแนวรับที่ 1 มีความน่า Buy เพราะราคายังอยู่ต่ำกว่า Pivot อยู่
B5 ราคาอยุ่ระหว่างแนวต้านที่ 1 และ 2 ราคาเริ่มขยับตัวขึ้น มีความน่า Buy อยู่พอสมควร
B6 ราคาอยู่ระหว่างแนวต้านที่ 2 และ 3 ยังอยู่ใน Zone ที่ราคาถูกมาก ๆ
B7 ราคาอยู่ต่ำกว่าแนวรับที่ 3 ถือเป็นบริเวณที่ราคาถูกมาก ๆ หาก Buy
บริเวณนี้จะมีความได้เปรียบเชิงราคาสูงมาก
การคาดการณ์ว่าราคาจะวกกลับไปสู่ค่าเฉลี่ยของมัน ซึ่งก็จะคล้ายกับการเทรดสวนเทรน
Score : จะบอกถึงคะแนนความน่าสวนแนวโน้มหลัก
โดยจะให้คะแนนตั้งแต่ 1 - 10
Order : จะบอกคำสั่งซื้อ - ขายที่แนะนำ
B = Buy
S = Sell
Product : ผลิตภัณฑ์หรือคู่เงินที่น่าเทรด
Change : การเปลี่ยนแปลง
คำนวณจากราคาปิดเมื่อวานกับราคาปัจจุบัน
Volatility : ความผันผวน
หรือ ระยะวิ่งโดยเฉลี่ย
Pos : ตำแหน่งปัจจุบันของราคาเมื่อเทียบกับ
High และ Low ในกรอบ 120 วัน
High หามาจากจุดสูงสุดของ 120 วัน (คิดเป็น Pos 100%)
Low หามาจากจุดต่ำสุดของ 120 วัน (คิดเป็น Pos 0 %)
เช่น ถ้า Pos = 50% แสดงว่าราคาปัจจุบันกำลังอยู่จุดกึ่งกลางระหว่าง High กับ Low
USDCHF,Daily
BB : Bolinger Band Position
เป็นการระบุตำแหน่งราคาปัจจุบันกับ BB
Upper Band คิดเป็นตำแหน่ง 100%
Lower Band คิดเป็นตำแหน่ง 0%
M Band คิดเป็นตำแหน่ง 50%
เช่น BB = 25% แสดงว่าราคาอยู่ด้านล่าง M Band เหนือ Lower Band
เช่น BB = -10% แสดงว่าราคากำลังทะลุกรอบ Lower Band ด้านล่างอยู่
คะแนนจะได้เยอะเมื่อราคาอยู่ใกล้ ๆ ขอบ Bolinger Band เพราะค่าเกิน 2SD
USDCHF,H4
Swap : ค่าธรรมเนียมการถือออเดอร์ข้ามคืน
สัมมนา Live Trading
วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2563
สถานที่ : อาคารกรุงเทพประกันภัย ชั้น 19
เวลา : 18.00 - 20.00 น.