Introducing 

Prezi AI.

Your new presentation assistant.

Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.

Loading content…
Loading…
Transcript

สงครามโลกครั้งที่1

สาเหตุของสงคราม

1.ผลจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม

1

2.การเกิดลัทธิจักรวรรดินิยม

2

ชาติมหาอำนาจในยุโรปได้ขยายอำนาจและอิทธิพลออกไปสู่ดินแดนนอกทวีป

การเกิดลัทธิชาตินิยม

เป็นความรู้สึกรักและภูมิใจในชาติของตนอย่างรุ่นแรง

3

ปรารถนาจะเห็นชาติของตนมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือชนชาติอื่น

4

โดยการสร้างกองทัพให้เข้มแข็งรุกรานชนชาติอื่น

ชนวนการ

เกิดสงคราม

ชนวนการเกิดสงคราม

Archduke Franz Ferdinand

ทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการ

ชนวนของสงครามเกิดในวันที่ 28 มิถุนายน 1914 ในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา(ในเมือง ซาราเยโว) Archduke Franz Ferdinand ทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีถูกลอบปลงพระชนม์โดย ชายหนุ่มชาวสลาฟอายุ 19 ผู้เป็นชาตินิยมนาม Gavrilo Princip โดยจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีได้กล่าวหาว่าเป็นการกระทำของเซอร์เบีย ซึ่งเซอร์เบียปฏิเสธส่งผลให้เกิดการทำสงครามกันระหว่าง 2 ชาตินี้ นำไปสู่ปฏิกิริยาลูกโซ่ที่นำชาติพันธมิตรทั้งหมดเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1

เหตุการณ์สำคัญ

ในสงคราม

เหตุการณ์สำคัญในสงคราม

Assassination of Franz Ferdinand (การลอบปลงพระชนม์)JUN 23, 1914

JUN 23, 1914

ชนวนของสงครามเกิดในวันที่ 28 มิถุนายนในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา(ในเมือง ซาราเยโว) Archduke Franz Ferdinand ทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีถูกลอบปลงพระชนม์โดย ชายหนุ่มชาวสลาฟอายุ 19 ผู้เป็นชาตินิยมนาม Gavrilo Princip และการที่เซอร์เบียปฏิเสธคำครหาจากจักรวรรดิออสเตรียที่ว่าตนมีส่วนในการลอบปลงพระชนม์

1. ออสเตรียประกาศสงครามกับเซอร์เบีย

2. รัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรกับเซอร์เบียต้องเปิดสงคราม

3.เยอรมันที่เป็นพันธมิตรของออสเตรียจึงต้องเข้าร่วมสงครามและเริ่มใช้แผนการของนายพล Schlieffen

4.ฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมันเพราะเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

5.อังกฤษต้องจำเป็นที่เข้าร่วมสงครามเพราะว่าเยอรมันรุกล้ำอธิปไตยของเบลเยี่ยม

6. อเมริกาประกาศตนเป็นกลางในสงคราม

ผลที่ตามมา

Austrian-Hungarian Empire Declares war on Serbia (จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีประกาศสงครามต่อเซอร์เบีย)

JUL 28, 1914

JUL 28, 1914

หลังจากประกาศสงคราม จักรวรรดิออสเตรียไม่รอช้า ระดมทหารเข้าโจมตี เมือง Belgrade ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบียในเวลานั้นทันที ทำให้พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ผู้นำจักรวรรดิรัสเซียไม่อาจนิ่งดูได้ จึงประกาศสงครามทันที

Germany Invades Belgium (เยอรมันรุกรานเบลเยี่ยม)

AUG 3, 1914

AUG 3, 1914

หลังจากวางแผนการเรียบร้อยแล้วเยอรมันจึงเคลื่อนพลเตรียมไปบุกฝรั่งเศส

หวังจะโจมตีแล้วเก็บฝรั่งเศสในคราวเดียว แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจาก การจะเดินทางอ้อมมาจากด้านบนนั้นจะต้องผ่านเบลเยี่ยมซึ่งประกาศตนเป็นกลาง เมื่อเยอรมันส่งสาส์นเพื่อขอให้เปิดทางนั้น เบลเยี่ยมไม่ยอม ทำให้เยอรมันต้องรุกล้ำอธิปไตย ส่งผลให้อังกฤษซึ่งณ เวลานั้น เป็นผู้รับประกันการเป็นเอกราชของเบลเยี่ยมไม่สามารถนิ่งนอนใจได้จึงต้องส่งจดหมายเพื่อขอให้เยอรมันถอนทัพออก แต่เยอรมันไม่ฟังอังกฤษจึงต้องเข้าร่วมสงคราและ ทำให้ต้องส่งกองกำลังปฏิบัติการทางทหารของอังกฤษ BEF

Battle of Tannenberg ยุทธการที่แทนเนนเบิร์ก

AUG 23, 1914

AUG 23, 1914

ทางด้านแนวรบตะวันออกรัสเซียไม่รอช้าเกณฑ์กองทัพและบุกเข้าสู่พรมแดนของ เยอรมันทางด้านตะวันออก แต่ทว่าที่นี้กลับกลายเป็นฝันร้ายของรัสเซีย เพราะว่า ณ สมรภูมิแห่งนี้มี Erich Friedrich Wilhelm Ludendorff และ หัวหน้าของเขา Von Hindenburg ผู้ซึ่งมากความสามารถทางการทหาร บัญชาการอยู่ที่นี้ ในสมรภูมินี้ รัสเซียสูญเสียทหารเป็นจำนวนมาก และยังถูกจับเป็นเชลยอีกกว่า 90000 นาย

First Battle of the Marne SEP 25, 1914 ยุทธการครั้งที่ 1 ท่ี่แม่น้ำมาร์น

SEP 25, 1914

เยอรมันหวังจะเผด็จศึกในครั้งเดียวจึงบุกทะลวงพรมแดนของฝรั่งเศสเข้ามาซึ่งในเวลานั้นกองทัพของสัมพันธมิตรจำเป็นต้องล่าถอยไปตั้งหลักที่ แม่น้ำมาร์น 40 ไมล์ห่างจากตัวกรุงปารีส ณ เวลานั้นด้วยความว่าเหมือนหมาจนตรอก จึง โต้กลับสุดกำลังและไล่พวกเยอรมันออกไปจากพรมแดนได้

Sinking of the Lusitania (การจมเรือลูซิตาเนีย)

MAY 7, 1915

MAY 7, 1915

เรือ Lusitania เรือโดยสารจาก นิวยอร์กมายัง ลิเวอร์พูลได้ถูกจมโดยเรือ ดำน้ำของเยอรมันมีผู้เสียชีวิตกว่า 1200 คน ซึ่ง128 คนนั้นเป็นคนอเมริกัน ทำให้เกิดอาการเคืองขึ้นในหมู่คนอเมริกา

FEB 21, 1916

Battle of Verdun ยุทธการที่เวอร์แดง

FEB 21, 1916

เป็นยุทธการและสมรภูมิที่โหดร้ายที่สุดที่หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์โลก ด้วยระยะเวลากว่า 303 วัน มีคนตายเป็นจำนวนมากหากรวมกับยอดผู้หายสาบสูญแล้วละก็อาจจะถึง 9 แสนคนเลยก็ได้ เป็นยุทธการของฝรั่งเศสและเยอรมันที่ต้องการจะแย่งชิงยุทธศาสตร์ของที่นี้ผลัดกันไปมาแม้ในตอนสุดท้ายฝรั่งเศสจะชนะแต่ก็เกือบทำให้ประเทศของตนเองนั้นล่มสลายกันเลยทีเดียว

MAY 31, 1916

Battle of Jutland ยุทธนาวีที่คาบสมุทร์จัตแลนด์

MAY 31, 1916

1 ใน ยุทธนาวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจทางทะเลนั้นคือ กองเรือหลวงแห่งราชนาวีอังกฤษ และ กองเรือหลวงของเยอรมัน เป็นยุทธการที่กินเวลาถึง 2 วัน ในวันที่ 31 พฤษภาคมและ 1 มิถุนายน ในสมรภูมินี้อังกฤษสูญเสียเรือรบเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับ

เยอรมันแต่ก็สามารถหยุดยั้งความต้องการของเยอรมันที่จะเปิดอ่าวสู่ทะเลหลวงได้สำเร็จ

JUL 1, 1916

Battle of the Somme ยุทธการที่แม่น้ำซอมม์

JUL 1, 1916

อีก 1 ในยุทธการที่นองเลือดมาก โดยเป็นการรบระหว่างกลุ่มสัมพันธมิตร(อังกฤษ และ ฝรั่งเศส) กับ เยอรมัน ในการรบนี้ได้มีการนำอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายเข้ามาในสงครามเช่น ลวดสนาม ปืนกล และแก๊ศมัสตาร์ด หรือ แก๊สคลอรีน

APR 2, 1917

US Declares War อเมริการประกาศสงคราม

NOV 10, 1917

ในปี 1917 เยอรมันรู้ว่าหากปล่อยไว้ตนต้องแพ้เนื่องจากขาดกำลังพลเป็นแน่จึงกลับไปใช้แผนการเดิมนั้นคือการจมเรือทุกชนิดที่วิ่งเข้าสู่อังกฤษซึ่งไม่นานนักหลักจากที่เริ่มแผนการก็ยิงโดนเข้ากับเรือบรรทุกข้าวสารที่มาจาก อเมริกา ส่งผลให้คราวนี้อเมริกาโกรธเป็นอย่างมาก รวมกับ ได้มีการถอดรหัสโทรเลขโดยอังกฤษซึ่งเป็นรหัสของเยอรมันส่งถึงเม็กซิโกใจความว่าหากอเมริกาจะเข้าร่วมสงครามให้เม็กซิโกโจมตีอเมริกาเลย ส่งผลให้ ปธน วูดโรล วิลสันประกาศตนเข้าสู่สงครามในที่สุด

MAR 21, 1918

German Spring Offensive of 1918 การทุ่มสุดตัวของเยอรมันในฤดูใบไม้ผลิ

MAR 21, 1918

หลังจากที่อเมริกาประกาศสงคราม เยอรมันรู้ดีว่าหากปล่อยไว้จะต้องลงเอยที่แพ้แน่ๆจึงทำ

ให้พวกเขาทุ่มหมดหน้าตักโดยหวังว่าจะทะลวงฝ่าตรงกลางเพื่อแบ่งกองทัพของอังกฤษและฝรั่งเศสออกจากกัน แต่ความพยายามของเขาก็ไม่สามารถเป็นจริงได้เพราะ

ถูกสกัดโดยทหารของอังกฤษและเครือจักรภพ

APR 1, 1918

RAF formed การก่อตั้งกองทัพอากาศแห่งอังกฤษ

APR 1, 1918

RAF คือ กองทัพอากาศของอังกฤษได้จัดตั้งขึ้นเพื่อรบกับกองทัพอากาศของฝรั่งเศสซึ่งอังกฤษสามารถเอาชนะและควบคุมน่านฟ้าบริเวณแนวรบตะวันตกได้สำเร็จ

Second Battle of the Marne ยุทธการที่แม่น้ำมาร์นที่ 2

JUL 16, 1918

JUL 16, 1918

หลังจากที่แผนการของเยอรมันไม่สำเร็จทำให้พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายโดยหวังที่จะทำลายกองทัพของฝรั่งเศสทางทิศใต้ให้ราบคาบ เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณแม่น้ำมาร์นก็ต้องหยุดชะงักเพราะว่าในเวลานั้นกองทัพแรกของอเมริกาได้เดินทางมาถึงเป็นที่เรียบ

ร้อยแล้วส่งผลให้เยอรมันไม่สามารถทะลวงแนวรบทางใต้ได้ บวกกับการที่ถูกปิดล้อมอ่าวโดยกองเรือของอังกฤษทำให้ขาด

แคลนทรัพยากรที่จะนำมาใช้ในการสงครามนั้นเอง

Austrian-Hungarian Empire Surrenders จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีขอยอมแพ้NOV 3, 1918

NOV 3, 1918

Doubleหลังจากที่ทางแนวรบตะวันตกกองทัพของเยอรมันถูกตีให้ล่นถอยในเวลาเดียวกันทางด้านจักรวรรดิออตโตมันได้เห็นว่าฝ่ายของตนกำลังจะแพ้จึงประกาศขอสงบศึกทันที ซึ่งณเวลาเดียวกัน กองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ประจันอยู่กับออสเตรีย-ฮังการีก็ได้ทุ่มสุดกำลังในยุทธการVittorio Vene ส่งผลให้ในเวลาต่อมาจักรวรรดิออสเตรียฮังการีขอสงบศึก

ในที่สุด ที่ Villa Giust click to edit

NOV 9, 1918

Kaiser Abdicated พระเจ้าไกเซอร์ วิลเฮลม์ที่ 2 สละราชสมบัติ

NOV 9, 1918

หลังจากที่ถูกตีจนยับเยิน บวกกับความท้อแท้และเหนื่อยล้าของประชาชนภายในเยอรมันส่งผลให้เกิดกลุ่มกบฎขึ้นซึ่งทำให้ ไกเซอร์ วิลเฮลม์ที่ 2 ต้องสละราชสมบัติและเปลี่ยนเยอรมันเป็น สาธารณัฐไวมาร์ในที่สุด

NOV 11 , 1918 เยอรมันยอมแพ้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1

เยอรมันประกาศสงบศึกและเซ็นสัญญากับกลุ่มสัมพันธมิตรบนรถไฟนำโดยผู้บัญชาการสูงสุดของฝั่งสัมพันธมิตรนั้นคือ Ferdinand Foch โดยกำหนดใช้เมื่อถึงเวลา 11นาฬิกา 11 นาที ตามเวลาท้องถิ่นประเทศฝรั่งเศส

NOV 11 , 1918

การสิ้นสุดสงคราม

วันที่ 11 พฤยศจิกายน 1918 เวลา 11 โมง ถือเป็นวันที่สิ้นสงคราม

ผลของสงคราม

ผลของสงคราม

- เกิดสนธิสัญญาขึ้น 5 ฉบับ ดังนี้ กับประเทศฝั่งมหาอำนาจกลาง ซึ่งเป็น 1 ใน บ่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเนื่องมาจากความโหดร้ายของค่าปฏิกรรมสงครามในสนธิสัญญา

1

- เกิดการล่มสลาย 4 จักรวรรดิ ใหญ่ ได้แก่ รัสเซีย เยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี และออตโตมันนำไปสู่การเขียนแผนที่ยุโรปและตะวันออกกลางใหม่

2

- เกิดประเทศเล็กๆมากมาย เช่น ออสเตรีย ฮังการี Czechoslovakia ยูโกสลาเวีย โปแลนด์ และอื่นๆ

3

ทำให้เยอรมันกลายเป็นผู้ผิดและ

ต้องรับผิดชอบในทุกกรณีของ

สงครามโลกครั้งที่ 1 และอยู่อย่างอัปยศอดสู

4

- จุดเริ่มต้นของสงคราม Middle East ในอนาคต

5

- เกิดสันนิบาตชาติ

6

TITLE

- เป็นองค์กรที่เกิดมาเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบเดียวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 นี้โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยการเจรจาและการทูต และแก้ไขปัญหาสิทธิด้านต่างๆของมนุษย์เพื่อสันติสุขของโลก แต่ทว่าเนื่องจากไร้ซึ่งกำลังภายใต้สังกัดของตนเอง ส่งผลให้องค์กรดังกล่าวไม่สามารถปกป้องอุดมการณ์ของตนได้นั้นคือ เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นเอง

- องค์กรสันนิบาติชาตินั้นเป็นจริงได้นั้นมีสาเหตุมาจากการที่ ปธน. วูดโรล์ วิลสัส ได้พูดถึงกฎทั้ง 14 ข้อ เพื่อสร้างสันติภาพให้แก่โลกหลักสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยใน14 ข้อนั้นมี อยู่1ข้อที่มีเจ้าความว่า การรวมตัวกันของประชาชาติควรจะถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้พันธะที่แน่นอนเพื่อจุดประสงค์ที่สามารถให้ความช่วยเหลือกันได้กับทุกฝ่าย และให้การรับรองแก่รัฐที่มีขนาดเล็กกว่าเทียบเท่ากับตนเอง โดยการจัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติขึ้นมา มีประเทศถึง 42 ประเทศ แม้ว่า อเมริกาจะเป็นชาติที่ทำให้เกิดองค์กรดังกล่าวแต่กลับไม่เข้าร่วมเพราะกลัวว่าจะมีข้อผูกมัด ซึ่งการที่อเมริกาไม่เข้าร่วมเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในเวลาต่อมา

TITLE

การมาถึงของยุทโธปกรณ์ทางการทหารแบบใหม่

จุดเด่นของสงคราม

ในสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นได้มีการนำอาวุธแบบต่างๆเข้ามาใช้งาน เช่น การใช้แก๊สคลอรีน การใช้ปืนกลไฟ การเกิดปืนกล มีการนำ เครื่องบินมาใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ทางการทหารเช่น ติดตั้งปืนกลใช้ยิง ทิ้งระเบิด เป็นต้น เกิดการสร้างรถถังครั้งแรกของโลก

Learn more about creating dynamic, engaging presentations with Prezi