Detail 3

หมวด 5

เหตุแห่งการประกาศใช้พรบ.นี้

กรณียกเว้น

นิยามความหมาย

มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนให้มากที่สุด โดยมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่คำนึงถึงวัตถุประสงค์

ของการใช้งานเป็นสำคัญซึ่งจะก่อให้เกิดความคุ้มค่าในการ

ใช้จ่ายเงิน ส่งเสริมให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการ

ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต

และประพฤติมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

พระราชบัญญัติ

การจัดซื้อจัดจ้าง

พัสดุ

สินค้า / บริการ

การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ

1. การจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวกับการพาณิชย์โดยตรง

2. การจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์และการบริการที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติโดยวิธี G2G

หรือโดยการจัดซื้อจัดจ้างจากต่างประเทศที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

3. การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อการวิจัยและพัฒนา เพื่อการให้บริการทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาหรือ

การจ้างที่ปรึกษา ทั้งนี้ ที่ไม่สามารถดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ได้

4. การจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ องค์การต่างประเทศทั้งในระดับรัฐบาลและที่มิใช่ระดับรัฐบาล

มูลนิธิหรือเอกชนต่างประเทศ ที่สัญญาหรือข้อกำหนดในการให้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ

5. การจัดซื้อจัดจ้างโดยใช้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ

สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่สัญญาหรือข้อกำหนดในการให้เงินกู้หรือ

โดยใช้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือนั้นร่วมกับเงินงบประมาณ

6. การจัดซื้อจัดจ้างของสถาบันอุดมศึกษาหรือสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยงานของรัฐโดยใช้เงินบริจาครวมทั้ง

ดอกผลของเงินบริจาค โดยไม่ใช้เงินบริจาคนั้นร่วมกับเงินงบประมาณ

ราคากลาง

อาคาร

สาธารณูปโภค

งานก่อสร้าง

หมวด 2

หมวด 3

คณะกรรมการนโยบายฯ

การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในการป้องกันการทุจริต

เงินงบประมาณ

งานจ้างออกแบบ/ควบคุม

งานจ้างที่ปรึกษา

มาตรา 16

มาตรา 17

หมวด 11

ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม

ในการสังเกตการณ์ขั้นตอนหนึ่งขั้นตอนใด

ให้คำนึงถึงวงเงิน มาตรการป้องกันการทุจริต และความคล่องตัวในการดำเนินงาน

การประเมินผลผู้ประกอบการ

มาตรา 106

ส่วนที่ 1 คณะกรรมการนโยบายฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง = ประธานกรรมการ

ส่วนที่ 2 คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาฯ

ปลัดกระทรวงการคลัง = ประธานกรรมการ

ส่วนที่ 3 คณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ

อธิบดีกรมบัญชีกลาง = ประธานกรรมการ

ส่วนที่ 4 คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.)

ปลัดกระทรวงการคลัง = ประธานกรรมการ

ส่วนที่ 5 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน

ปลัดกระทรวงการคลัง = ประธานกรรมการ

ผู้ประกอบการรายใดที่มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จะถูกระงับการยื่นข้อเสนอไว้ จนกว่าจะมีผลการปฏิบัติงานเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา 19

มาตรา 18 - ข้อตกลงคุณธรรม

มาตรา 107

ให้ยึดเกณฑ์ประเมินตามมาตรา 106 ประกอบการพิจารณาผู้ยื่นข้อเสนอ

มาตรา 39 อำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ค.ป.ท.

1. กำหนดแนวทางและวิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริต

2. กำหนดแบบของข้อตกลงคุณธรรมและแบบรายงานของผู้สังเกตการณ์

3. คัดเลือกโครงการการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อเข้าร่วมโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริต

4. คัดเลือกผู้สังเกตการณ์เพื่อเข้าร่วมโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริต

5. ตีความและวินิจฉัยปัญหาข้อหารือเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการในการดำเนินงานตาม (1)

6. ยกเว้นหรือผ่อนผันกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามรายละเอียดของแนวทางและวิธีการตาม (1)

7. พิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางและ

วิธีการในการดำเนินงานโครงการความร่วมมือป้องกันการทุจริตตาม (1)

มาตรา 108

ผู้ประกอบการที่อยู่ในประเภทหรือมีวงเงิน ตามที่ ค.ป.ท. ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา ต้องจัดให้มีนโยบายในการป้องกันการทุจริตและมีแนวทางป้องกันการทุจริต มาตรการขั้นต่ำเป็นไปตาม ค.ป.ท.ประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

รัฐมนตรีอาจออกระเบียบกำหนดการประเมินผลการปฏิบัติงานอื่นนอกเหนือจากความสามารถในการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามสัญญา

ให้จัดทำเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐเจ้าของ

โครงการและผู้ประกอบการที่จะเข้ายื่นข้อเสนอ โดยต้องตกลงกันว่าจะไม่กระทำการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง และให้มีผู้สังเกตการณ์ ที่จำเป็นต่อโครงการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ๆ เข้าร่วมสังเกตการณ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำร่าง จนถึงขั้นตอนสิ้นสุดโครงการ ผู้สังเกตการณ์ต้องเป็นกลาง ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย และรายงาน ค.ป.ท. ด้วย

จุดที่มุ่งเน้น

มาตรา 8 - การจัดซื้อจัดจ้างต้องเกิดประโยชน์สูงสุดแก่รัฐ

หมวด 12

มาตรา 13

การทิ้งงาน

ผู้ที่มีหน้าที่ดำเนินการต้อง

ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่น

หรือคู่สัญญา

หมวด 7

หมวด 8

หมวด 6

มาตรา 109

1. คุ้มค่า - ราคา อายุการใช้งานและบริการเหมาะสม

2. โปร่งใส – เปิดเผย แข่งขันเป็นธรรม เท่าเทียม ระยะเวลาเหมาะสม

3. มีประสิทธิภาพประสิทธิผล วางแผนล่วงหน้า มีผลสัมฤทธิ์

4. ตรวจสอบได้ เก็บข้อมูล ทุกขั้นตอน

หมวด 13

การบริหารพัสดุ

งานจ้างออกแบบและควบคุมก่อสร้าง

งานจ้างที่ปรึกษา

การจัดซื้อจัดจ้าง

1. ไม่ยอมไปทำสัญญาหรือข้อตกลงภายในเวลาที่กำหนด

2. การรับช่วงงานไม่ปฏิบัติตามสัญญา

3. การขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทำการโดยไม่สุจริต

4. มีข้อบกพร่อง ผิดพลาด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอย่างรายแรง

5. ผู้ประกอบการงานก่อสร้างไม่ปฏิบัติตามมาตรา 88

6. ให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้ผู้ยื่นเป็นผู้ทิ้งงาน

มาตรา 112

*ใช้ในงานพัสดุ ยกว้น งานจ้างที่ปรึกษา งานจ้างออกแบบ งานควบคุมก่อสร้าง (มาตร 54)

ให้หน่วยงานควบคุมดูแลพัสดุ ใช้งานและบริหารอย่างเหมาะสม

มาตรา 12

มีวิธีการ 3 รูปแบบ (มาตร 69)

มาตรา 113

มีวิธีการ 3 รูปแบบ (มาตร 79)

มีวิธีการ 3 รูปแบบ (มาตร 55)

มาตรา 11

มาตรา 110

ผู้ที่ถูกสั่งให้เป็นผู้ทิ้งงาน อาจร้องขอให้ได้รับการเพิกถอน ตามหลักเกณฑ์ดังนี้

หน่วยงานของรัฐต้องบันทึกรายงานผลการพิจารณารายละเอียด วิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและจัดเก็บไว้อย่างเป็นระบบ

มีการเก็บ ขึ้นทะเบียน การบันทึก เบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบำรุงรักษา และการจำหน่าย ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

1. ประกาศเชิญชวนทั่วไป - คุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข

ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ประกาศเผยแพร่ 2 ที่

1. ระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง

2. ระบบเครือข่ายสารสนเทศหน่วยงานของรัฐโดยเปิดเผย

มาตรา 14

1. เชิญชวนทั่วไป - มาตรา 70 (1)

1. เชิญชวนทั่วไป - มาตรา 80

เว้นแต่

1. มีฐานะการเงินมั่นคง

2. มีการชำระภาษีโดยถูกต้องตามกฎหมาย

3. พ้นกำหนดระยะเวลาการแจ้งเวียนรายชื่อ

เป็นงานที่ไม่ซับซ้อน เป็นงานประจำของหน่วยงาน

2. คัดเลือก - เฉพาะที่มีคุณสมบัติไม่น้อยกว่า 3 ราย (มาตรา 56)

เป็นงานจ้างออกแบบและควบคุมก่อสร้างที่ไม่ซับซ้อน

มาตรา 15

หากมีข้อผิดพลาดโดยไม่มีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ถือเป็นโมฆะ

ผู้มีอำนาจสั่งซื้อหรือสั่งจ้างพัสดุ โดยวิธีใดจะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดและภายในวงเงินเท่าใด ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

1. เร่งด่วน ลับ ตามมาตรา 56 (1)(ค) หรือ (ฉ)

2. วงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มีความจำเป็นเร่งด่วน และเกี่ยวกับความมั่นคง 56 (2)(ข)(ง) หรือ (ฉ)

3. จ้างที่ปรึกษาอยู่ในวงเงิน หรือ เร่งด่วน หรือ เกี่ยวกับความมั่นคง

4. จ้างออกแบบหรือคุมก่อสร้าง เร่งด่วน หรือ เกี่ยวกับความมั่นคง

มาตรา 111

2. คัดเลือก - มาตรา 70 (2) ให้กระทำได้ในกรณี ดังนี้

2. คัดเลือก - มาตรา 81 ให้กระทำได้ในกรณี ดังนี้

ห้ามหน่วยงานของรัฐทำการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ทิ้งงาน เว้นแต่จะได้มีการเพิกถอน ตามมาตรา 110 แล้ว

3. เจาะจง - ผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่ง หรือ อยู่ในวงเงิน

ตามที่กำหนดกฏกระทรวง (มาตรา 96 วรรค 2)

วิธีเจาะจง - มาตรา 56 (2)

วิธีคัดเลือก - มาตรา 56 (1)

ก. ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ, ข. เป็นงานที่ซับซ้อน, ค. จำนวนจำกัด, ง. กรณีอื่นๆตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

1. ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ, 2. เป็นงานที่ซับซ้อน, 3. เป็นงานที่หน่วยงานไม่มีข้อมูลกำหนดรายละเอียดเบื้องต้น

ก. ใช้วิธีประกาศทั่วไปแล้วคัดเลือกแล้วไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ

ข. มีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งหนึ่งไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดกฎกระทรวง

ค. มีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว

ง. ฉุกเฉิน

จ. เกี่ยวพันกับพัสดุที่ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว ต้องจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม โดย

มูลค่าของพัสดุที่ทำการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมจะต้องไม่สูงกว่าพัสดุที่ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว

ฉ. พัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ

ช. เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างซึ่งจำเป็นต้องซื้อเฉพาะแห่ง

ก. ใช้วิธีประกาศทั่วไปแล้วไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ

ข. พัสดุมีคุณลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษ และผู้ประกอบการนั้นมีจำนวนจำกัด

ค. มีความจำเป็นเร่งด่วน

ง. ต้องระบุยี่ห้อเป็นการเฉพาะตามข้อจำกัดทางเทคนิค

จ. จำเป็นต้องซื้อโดยตรงจากต่างประเทศ

ฉ. ใช้ในราชการลับ

ช. จ้างซ่อม ต้องถอดตรวจก่อนทราบขอบเขตงาน

ซ. กรณีอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

* รัฐมนตรีอาจออกกฎกระทรวงตาม 1 (ซ) หรือ 2 (ซ) เมื่อหน่วยงานของรัฐจะทำการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุนั้นให้ใช้วิธีเฉพาะเจาะจงตาม 2 (ซ) ก่อน

3. เจาะจง - มาตรา 70 (3 ) ให้กระทำได้ในกรณี ดังนี้

3. เจาะจง - มาตรา 82 ให้กระทำได้ในกรณี ดังนี้

หมวด 14

หมายเหตุ (3)

หมายเหตุ (2)

หมายเหตุ (1)

การอุทธรณ์

มาตรา 66 - ปิดประกาศเปิดเผยผลผู้ชนะการจัดซื้อจัดจ้าง เว็ปไซต์ของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานฯ

การลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างจะกระทำได้ต่อเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาอุทธรณ์และไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ตามมาตรา 117 หรือในกรณีที่มีการอุทธรณ์ เมื่อหน่วยงานฯได้รับแจ้งจากคณะกรรมการพิจารณา ให้ทำการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปได้ เว้นแต่การจัดซื้อจัดจ้างที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

มาตรา 64 - ผู้ประกอบการที่ยื่นข้อเสนอต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม*

มาตรา 65 - ให้คำนึงถึงเกณฑ์ราคาและพิจารณาเกณฑ์อื่นประกอบด้วย อาทิ ต้นทุนและอายุการใช้งาน,

มาตรฐานสินค้าและบริการ, บริการหลังการขาย, พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน

(พัสดุที่สร้างนวัตกรรมหรือพัสดุที่อนุรักษ์พลังงานหรือสิ่งแวดล้อม เป็นอย่างน้อย),

ผลประเมินผู้ประกอบการ, ข้อเสนอด้านเทคนิค, เกณฑ์อื่นตามกำหนดกระทรวง

1.ใช้วิธีเชิญแล้ว คัดเลือกแล้วไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ, 2. งบไม่เกินวงเงิน,

3. เร่งด่วน หรือเกี่ยวกับความมั่นคง, 4.เป็นงานที่ทำต่อจากเดิม

มาตรา 57 - การจัดซื้อด้วย e-Bidding ของกรมบัญชีกลาง ให้เป็นไปตามระเบียบรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา 58 - สามารถจัดซื้อจัดจ้างระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน

มาตรา 59 - สามารถจัดรับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการก่อนเขียน TOR ก็ได้

มาตรา 60 - ก่อนจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 55 ต้องมีรูปแบบรายการงานก่อสร้าง โดยจัดทำได้ 2 วิธี

1. หน่วยงานเป็นผู้จัดทำเอง

2. จัดจ้าง หมวด 8 (จ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง)

แบบใดแบบหนึ่งก็ได้

มาตรา 61 - ผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้รับผิดชอบ จะเป็น'คณะ'หรือ'เจ้าหน้าที่' คนใดคนหนึ่งก็ได้

มาตรา 62 - การจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 55 ต้องประกาศเผยแพร่ วัน เวลา สถานที่ และเงื่อนไขอื่นๆ

มาตรา 63 - การจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 55 ประกาศข้อมูลราคากลางกรมบัญชีกลางด้วย

ก. ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ, ข. วงเงินค่าจ้างครั้งหนึ่งไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง,

ค. ทำต่อจากงานที่ได้ทำไว้แล้ว, ง. จำนวนจำกัดและมีวงเงินค่าจ้างครั้งหนึ่งไม่เกินงบกระทรวง

จ. มีที่ปรึกษาในงานที่จะจ้างนั้นเพียงรายเดียว, ฉ. จำเป็นเร่งด่วน หรือความมั่นคงของชาติ

มาตรา 114

มาตรา 115

*อย่างน้อยต้องกำหนดให้หน่วยงานของรัฐเลือกใช้เกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งหรือหลายเกณฑ์ ประกอบกับเกณฑ์ราคาต้องกำหนดน้ำหนัก

ของแต่ละเกณฑ์ให้ชัดเจน จำเป็นต้องใช้เกณฑ์เดียว ให้ใช้เกณฑ์ราคา การพิจารณาเลือกข้อเสนอให้จัดเรียงลำดับตามคะแนน ข้อเสนอใดที่มีคะแนนสูงสุดให้หน่วยงานของรัฐเลือกข้อเสนอ ให้หน่วยงานของรัฐประกาศเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาคัดเลือกและ

น้ำหนักของแต่ละเกณฑ์ไว้ในประกาศเชิญชวนหรือหนังสือเชิญชวน แล้วแต่กรณี ด้วย

ผู้มีสิทธิ์อุทธรณ์

เรื่องที่ไม่รับอุทธรณ์

หมวด 4

ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอ มีสิทธิอุทธรณ์การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ กรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เป็นเหตุให้ไม่ได้รับเลือกเป็นคู่สัญา

หมายเหตุ (2)

หมายเหตุ (1)

1. การเลือกใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างหรือเกณฑ์ที่ใช้ใน

การพิจารณาผลการจัดซื้อจัดจ้าง

2. (รัฐยกเลิกสัญญาตามเงื่อนไข) ตามมาตรา 67

3. การละเว้นการอ้างถึงพระราชบัญญัตินี้

4. อื่นๆตามกำหนดกระทรวง

การยกเลิกก่อนลงนามสัญญา

หมายเหตุ (2)

หมายเหตุ (1)

องค์กรสนับสนุนดูแลการจัดซื้อจัดจ้าง

มาตรา 67

มาตรา 89 - ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานจ้างออกแบบเพื่อรับผิดชอบ

ในการดำเนินงานจ้าง องค์ประกอบ องค์ประชุมและหน้าที่ของคณะกรรมการตามระเบียบ

ที่รัฐมนตรีกำหนด และค่าตอบแทนคณะกรรมการเป็นตามกระทรวงการคลังกำหนด

มาตรา 90 - ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบ ที่ได้คะแนนด้านคุณภาพมากที่สุด

มาตรา 91 - ให้นำบทบัญญัติมาตรา 62 (ประกาศเชิญโดยเปิดเผย) และมาตรา 66

(ประกาศผลผู้ชนะโดยเปิดเผย) มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา 92 - อื่นๆ ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีกำหนด

*ให้นำบทบัญญัติ

มาตรา 62 และมาตรา 66 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

(มาตรา 77)

มาตรา 83 - การประกวดแบบ ให้ผู้ประกอบการที่ตรงตามเงื่อนไขยื่นเสนอสำหรับงานดังนี้

• งานที่มีลักษณะพิเศษ
• เชิดชูศิลปกรรมหรือสถาปัตยกรรมของชาติ
• งานอื่นๆตามกระทรวงกำหนด

มาตรา 84 - เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานจ้างหมวด 8 ตามมาตรา 80, 81, 82, และ83

รัฐมนตรีอาจออกระเบียบเพิ่มเติมได้ตามความจำเป็น

มาตรา 85 - การจัดจ้างด้วย e-Bidding ของกรมบัญชีกลาง ให้เป็นไปตามระเบียบรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา 86 - ให้นำมาตรา 58 (การจัดซื้อจัดจ้างระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน) มาใช้โดยอนุโลม

มาตรา 87 - ผู้ให้บริการต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม

มาตรา 88 - หน่วยงานของรัฐต้องไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ประกอบการงานก่อสร้าง

*จัดซื้อจัดจ้างอื่นๆที่ไม่อยู่ในหมวดให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรี

กำหนด (มาตรา 68)

*งาน ซับซ้อน หรือ ซับซ้อนมาก หรือ มีเทคนิคเฉพาะ มีกำหนดตัวอย่างบนเว็บกรมบัญชีกลาง

มาตรา 71 - จัดจ้างด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา 72 - ให้นำบทบัญญัติมาตรา 58 (G2G) มาใช้บังคับ

มาตรา 73 - ต้องเป็นที่ปรึกษาที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับศูนย์ข้อมูลที่ปรึกษา

มาตรา 74 - ในการดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการจ้างฯและการ

ให้ค่าตอบแทนคณะกรรมการดำเนินงานจ้างฯให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด

มาตรา 116, 117, 118

มาตรา 119

รายละเอียดการอุทธรณ์

ไม่เห็นด้วยกับผลอุทธรณ์

ก่อนลงนามในสัญญา หน่วยงานอาจประกาศยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในกรณี ดังต่อไปนี้

1. ไม่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ หรือเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ

2. มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น ขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือสมยอมกันกับผู้

ยื่นข้อเสนอ หรือส่อว่ากระทำการทุจริตอื่นใด

3. การจัดซื้อจัดจ้างต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือสาธารณประโยชน์

การยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างเป็นเอกสิทธิ์ของหน่วยงานของรัฐ จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ

จากหน่วยงานของรัฐไม่ได้

มาตรา 75 - ให้พิจารณาเกณฑ์ด้านคุณภาพ ดังต่อไปนี้

1. ผลงานและประสบการณ์ของที่ปรึกษา

2. วิธีการบริหารและวิธีการปฏิบัติงาน

3. จำนวนบุคลากรที่ร่วมงาน

4. ประเภทของที่ปรึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน

5. ข้อเสนอทางด้านการเงิน

6. เกณฑ์อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 76 - ให้เป็นไปตามเกณฑ์ในการพิจารณาและการให้น้ำหนักดังต่อไปนี้ด้วย

1. งานที่ไม่ซับซ้อน ที่ผ่านเกณฑ์ด้านคุณภาพและให้คัดเลือกจากรายที่เสนอราคาต่ำสุด

2. งานที่ซับซ้อน ให้คัดเลือกจากรายที่ได้คะแนนรวมด้านคุณภาพและด้านราคามากที่สุด

3. มีความซับซ้อนมาก ให้คัดเลือกจากรายที่ได้คะแนนด้านคุณภาพมากที่สุด

กรมบัญชีกลาง

มาตรา 116 - การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์

มาตรา 117 - ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานภายใน 7 วันทำการ นับแต่วันประกาศ

ผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง

มาตรา 118 - ให้หน่วยงานพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ภายใน 7 วันทำการ

นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ตาม

มาตรา 119 ภายใน 3 วันทำการนับแต่วันที่ครบกำหนด

• เมื่อได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐตามมาตรา 118 คณะกรรมการต้องพิจารณาอุทธรณ์

ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน สามารถขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกิน 2 ครั้ง

ครั้งละไม่เกิน 15 วัน

• หากคำอุทธรณ์มีผลให้ดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้างใหม่
• ในกรณีที่พ้นกำหนดระยะเวลา คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ให้ยุติ

เรื่อง พร้อมกับแจ้งให้หน่วยงานของรัฐทำการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป

• หากผู้อุทธรณ์ใดไม่พอใจคำวินิจฉัย ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่การ

ฟ้องคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างที่หน่วยงาน

หมวด 9

หมวด 10

การทำสัญญา

การบริหารสัญญาและการตรวจรับ

- ดูแลและพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างผ่านอิเล็กทรอนิกส์

- จัดทำฐานข้อมูลราคากลาง

- รวบรวม วิเคราะห์และประเมินการใช้งาน พรบ.นี้เพื่อพัฒนา

- ฝึกอบรมและให้ความรู้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง

- ปฏิบัติงาน ประชุม งานวิชาการ หาข้อมูลเกี่ยวเนื่อง อื่นๆ

มาตรา 93 - รูปแบบ

มาตรา 96 - ยกเว้น

มาตรา 100

มาตรา 95 - ซับงาน

มาตรา 101

มาตรา 102

ดำเนินการโดยคณะกรรมการ

งานที่ดำเนินการเป็นระยะ

การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข (ค่าปรับ/ ขยายเวลา)

(ห้าม sub งาน) สัญญาที่ทำในราชอาณาจักรต้องมีข้อตกลงในการห้ามคู่สัญญาไปจ้างช่วงให้ผู้อื่นทำอีกทอดหนึ่ง ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน

*เว้นแต่การจ้างช่วงแต่บางส่วนที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน

ของรัฐที่เป็นคู่สัญญาแล้ว

ต้องกำหนดให้มีค่าปรับ ไม่น้อยกว่า 10% ของวงเงินที่จ้างช่วงต่อ

• ให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
• กรณีมีวงเงินเล็กน้อยจะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ตรวจรับพัสดุนั้นก็ได้
• นำมาตรา 96 วรรค 3 มาใช้โดยอนุโลม

• งานจ้างก่อสร้างที่มีขั้นตอนการดำเนินการเป็นระยะ ๆ หรือมีการเบิกจ่ายเป็นงวดๆให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้คุมงานเพื่อรับผิดชอบ ต้องผ่านคุณสมบัติตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
• มีค่าตอบแทนผู้ควบคุมงานตามวรรคหนึ่ง

หมวด 15

อาจจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือไม่ทำตามแบบสัญญาตามมาตรา 93 ก็ได้ เฉพาะในกรณีดังนี้

1. จัดจ้างโดยคัดเลือกตามมาตรา 56(1)(ค), เจาะจง มาตรา 56(3)(ข)(ง)หรือ(ฉ)

หรือจ้างที่ปรึกษาเจาะจงมาตรา 70(3)(ข)

2. การจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานของรัฐ

3. คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุครบภายใน 5 วันทำการ นับจากวันทำหนังสือตกลง

4. การเช่าซึ่งผู้เช่าไม่เสียสิ่งอื่นใดนอกจากค่าเช่า

5. กรณีอื่นๆ ต้องมีหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้าง

*การออกกฎกระทรวงตามวรรคสองจะกำหนดวงเงินเล็กน้อยให้แตกต่างกันตามขนาดหรือประเภท

ของหน่วยงานของรัฐก็ได้

- ต้องทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดโดยความเห็นชอบของสำนักงานอัยการสูงสุด

- หากจำเป็นต้องมีข้อความหรือรายการแตกต่างไปจากแบบสัญญาตามวรรคหนึ่งให้ส่งร่างสัญญานั้น

ไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนและจำเป็นต้องร่างสัญญาขึ้นใหม่

ให้ส่งร่างสัญญานั้นไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนเว้นแต่การทำสัญญา

ตามแบบที่สำนักงานอัยการสูงสุดได้เคยให้ความเห็นชอบมาแล้ว ก็ให้กระทำได้

- กรณีทำสัญญาเป็นภาษาต่างประเทศให้ทำเป็นภาษาอังกฤษและต้องจัดทำข้อสรุปสาระสำคัญ

แห่งสัญญาเป็นภาษาไทยตามหลักเกณฑ์

- กรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่ได้ทำตามแบบสัญญาให้หน่วยงานส่งสัญญานั้นให้สำนักงานอัยการสูงสุด

พิจารณาให้ความเห็นชอบในภายหลังได้ถ้าหน่วยงานของรัฐแก้ไขสัญญานั้นให้เป็นไปตามความเห็น

ของสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ให้ถือว่าสัญญานั้นมีผลสมบูรณ์

- กรณีหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขสัญญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือคู่สัญญาไม่ตกลง

หรือยินยอมให้แก้ไขสัญญา ให้ถือว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ

การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทำการ ให้อยู่ในดุลยพินิจ

ของผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาได้ตามจำนวนวันที่มีเหตุเกิดขึ้นจริงเฉพาะในกรณีดังนี้

1. เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ

2. เหตุสุดวิสัย

3. เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่คู่สัญญาไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย

4. เหตุอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

หลักเกณฑ์และวิธีการของดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญาหรือการขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

* มาตรา 94 - สัญญานอกเหนือจากภาษาไทยให้ผู้เชี่ยวชาญประจำหน่วยงานพิจารณาก็ได้

บทกำหนดโทษ

การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ

มาตรา 104

มาตรา 103

มาตรา 97 - ห้ามแก้ไข

มาตรา 98 - เผยแพร่

สัญญาผิด พรบ.

บอกเลิกสัญญา

มาตรา 120

กรณีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างเกิดจากหน่วยงานมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ กฏกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ให้ดำเนินการดังนี้

1. กรณีไม่ร้ายแรง ไม่เป็นสาระสำคัญ --> สัญญาดำเนินการต่อไป

2. กรณีผิดพลาดร้ายแรง เป็นสาระสำคัญ --> สัญญาถือเป็นโมฆะ

กรณีที่มีเหตุบอกเลิกสัญญาให้อยู่ในดุลพินิจของผู้มีอำนาจในกรณีดังต่อไปนี้ –

1. เหตุตามที่กฎหมายกำหนด

2. เหตุอันเชื่อได้ว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานหรือทำงานให้แล้วเสร็จได้ภายใน

ระยะเวลาที่กำหนด

3. เหตุอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือในสัญญาหรือข้อตกลง

4. เหตุอื่นตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วแก้ไขไม่ได้

เว้นแต่อยู่ในดุลยพินิจของผู้มีอำนาจที่จะพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขได้

1. เป็นการแก้ไขตามมาตรา 93 วรรคห้า (ไม่แก้ไขสัญญาตามอัยการ เป็นโมฆะ)

2. จำเป็นต้องแก้ไขเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งรัฐและไม่ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์

3. เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐหรือประโยชน์สาธารณะ

4. อื่นๆตามกระทรวงกำหนด

* กรณีแก้ไขสัญญาไม่รัดกุมหรือเสียประโยชน์ ให้ส่งสำนักอัยการสูงสุดเห็นชอบก่อน

* กรณีเพิ่มวงเงิน และวงเงินที่เพิ่มขึ้น หรือสั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป ให้ผู้มีอำนาจอนุมัติ เป็นผู้อนุมัติ

การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงด้วย

* กรณีที่มีการแก้ไขสัญญา เพื่อลดวงเงิน ให้ผู้มีอำนาจอนุมัติตามวงเงินเดิม เป็นผู้อนุมัติการแก้ไข

ให้ประกาศเผยแพร่สาระสำคัญของสัญญาหรือข้อตกลงที่ลงนามแล้วรวมถึงการแก้ไข เปลี่ยนแปลงใดๆ ลงบน 'เว็ปไซต์' ของ

1. กรมบัญชีกลาง และ

2. ของหน่วยงาน ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด

คณะกรรมการกลาง

*ให้คณะกรรมการนโยบายกำหนดกรณีตัวอย่างสารระสำคัญผิดพลาดร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรง ไม่เป็นสาระสำคัญบนเว็ปไซต์ของกรมบัญชีกลาง

*ความเป็นโมฆะให้คณะกรรมการนโยบายเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

*ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง หรือการบอกเลิกสัญญา หรือข้อตกลงนั้นฃ

เป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับ แล้วแต่กรณีคู่สัญญาจะยื่นคำขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณา

ชดใช้ค่าเสียหายก็ได้ หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคำขอให้ไว้เป็นหลักฐานให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียก

ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาต่อไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

บทเฉพาะกาล

มาตรา 105 - อื่นๆ

ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้าง

• ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี
• ปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท
• หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่ง

มาตรา 99 - อื่นๆ

วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพรบ.นี้

รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการบริหารสัญญาและการตรวจรับอื่นๆที่ไม่ได้บัญญัติไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการทำสัญญาอื่นๆที่ไม่ได้บัญญัติไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

- กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียน

ผู้ประกอบการงานก่อสร้าง

- พิจารณาผู้ประกอบการพัสดุอื่นเพื่อขึ้นทะเบียน

- อัพเดตฐานข้อมูลผู้ประกอบการเสมอ

- ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม

มาตรา 121

• หากยังไม่มีกฎกระทรวง ระเบียบ ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และระเบียบว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 มาใช้บังคับโดยให้ถือเป็นหลักเกณฑ์ จนกว่าจะมีประกาศตามวรรคหนึ่ง
• ในระหว่างที่การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ยื่นข้อเสนอยังไม่แล้วเสร็จ ให้หน่วยงานของรัฐได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 51 เว้นแต่ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐใดมีการจัดทำบัญชีผู้ประกอบการ

งานก่อสร้างที่มีคุณสมบัติเบื้องต้นไว้แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติใช้บังคับ

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยตามมาตรา 31 หรือ 45 ผู้นั้นมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

ให้ดำเนินคดีแก่ผู้นั้นต่อไป