Introducing
Your new presentation assistant.
Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.
Trending searches
เพศภาวะ เพศวิถี เชื่อโยงกับมิติเรื่องค่านิยมและบรรทัดฐานหรือระบบความคิด วิธีปฎิบัติที่เกี่ยวกับความปรารถนาการแสดงออกทางเพศ
ความคิดเกี่ยวกับคู่รักหรือคู่ชีวิตในอุดมคติที่เป็นการแสดงความหมายทางสังคม โดยมีความสัมพันธ์กับระบบเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรมที่กำหนดกับสร้างความหมายเกี่ยวกับเรื่องเพศ ได้แก่ ความปกติของการเป็นคนรักต่างเพศและความผิดปกติของการเป็นคนรักเพศเดียวกัน และอัตลักษ์ทางเพศมีความหลากหลายอย่างมากโดยจะเห็นได้จาก
ความปรารถนาหรือเพศสัมพันธ์รูปแบบต่างๆทั้งการมีเพศสัมพันธ์
เพียงคนเดียวหรือหลายคนการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและ
ไม่ปลอดภัย รักต่างวัย รักนอกสมรส เป็นต้น
เพศภาวะ (Gender) การประกอบสร้างความหมายให้กับความแตกต่างระหว่างเพศทางร่างกาย โดยเป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับบริบททางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ การเมือง และความเชื่อระหว่างความเป็นผู้หญิงและผู้ชาย เพศภาวะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างทางสังคม ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาและตามบริบททางวัฒนธรรม
ปัจจัยทางสรีระและชีววิทยา ทำให้เห็นความแตกต่างทางเพศด้านกายภาพระหว่างเพศชายและเพศหญิงตามลักษณะโครงสร้างของ
ร่างกายและอวัยวะเพศโดยเบื้องต้น ทำให้เพศชายและเพศหญิงมีความแตกต่างกันโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเพศภาวะหรือความเป็นหญิงชายไม่ได้ถูกกำหนดโดยปัจจัยทางชีวภาพ แต่ถูกกำหนดโดยปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม และผู้ชายถูกกำหนดความคาดหวังในแง่มุมเฉพาะต่างๆ และกำหนดก่อรูปความแต่งต่างไปตามความเชื่อ และมายาคติทางเพศ
ทั้งนี้ความเป็นพฤติกรรมที่ถูกเรียนรู้ทางสังคม ปัจจัยทางสังคมและวัฒนธรรมได้สร้างความเป็นเพศขึ้นโดยกำหนดว่าควรปฏิบัติอย่างไร ผู้หญิงและผู้ชายควรจะต้องมีหน้าที่อย่างไร การที่สังคมได้ประกอบสร้างความเป็นเพศขึ้น โดยให้ผู้หญิงมีคุณลักษณะบางอย่างและผู้ชายมีคุณลักษณะบางอย่างและเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณลักษณะทางเพศนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและแตกต่างจากบรรทัดฐานของสังคม
ได้ ความคิดยึดติดนั้นจึงนำไปสู่การกำหนดบทบาทหน้าที่
เมื่อความเป็นหญิงและชายถูกสร้างให้มีความแตกต่าง ทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในสถานะที่ด้อยโอกาสกว่าผู้ชายทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม การมองเรื่องเพศในทางลบจึงมักจะเกี่ยวข้องกับความไม่เท่าเทียมและการรองรับการกดขี่ ทำให้กิจกรรมที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศของผู้ชายและผู้หญิงถูกมองเป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อการกดขี่เอารัดเอาเปรียบทางเพศที่ผู้หญิงต้องตกเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรงในลักษณะต่างๆ
เพศวิถี (Sexuality) แบบแผนพฤติกรรมการปฏิบัติของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกามารมณ์และแรงปรารถนาจากส่วนลึกที่รวมถึงการแสดงออกของบุคคลนั้น เพศวิถีเป็นค่านิยมบรรทัดฐาน ระบบวิธีคิดและวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับความปรารถนาและการแสดงออกทางเพศนอกจากนี้ ยังรวมถึงความคิดเกี่ยวกับคู่รักหรือคู่ชีวิในอุดมคติที่เป็นการสร้างความหมายทางสังคม เพศวิถีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและวัฒนธรรมที่กำหนดและสร้างความหมายเกี่ยวกับเรื่องเพศ ได้แก่ ความปกติของการเป็นคนรักต่างเพศและความคิดผิดปกติของการเป็นคนรักเพศเดียวกัน ผู้หญิงดีคือผู้หญิงที่อ่อนประสบการณ์ทางเพศหรือเป็นกุลสตรีเป็นต้น
เพศวิถีเป็นการแสดงออกทางเพศ ความปรารถนาทางเพศ และพฤติกรรมทางเพศซึ่งสังคมส่วนใหญ่ได้กำหนดรูปแบบของเพศวิถีผ่านปฏิบัติการทางวาทกรรมจารีต โดยกำหนดว่า เพศวิถีใดที่ต้องห้ามหรือไม่ควรปฏิบัติ ดังนั้น เพศวิถีจึงต้องมีลักษณะเป็นข้อห้าม ที่เกี่ยวข้องกับความอับอาย ไม่ควรแสดง การประกอบสร้างทางสังคมในเรื่องเพศวิถีเป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการคิด พฤติกรรม และเงื่อนไขในเรื่องเพศซึ่งตีความและให้เหตุผลโดยระบบความหมายเชิงวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ความหมายโดยนัยของเรื่องเพศวิถีในปัจจุบันไม่ได้เป็นแค่เพียงเรื่องของเพศชายและเพศหญิงเพศใด
เพศหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีเพศวิถีที่แตกต่างหลากหลายและผันแปรได้ในลักษณะต่างๆได้แก่
1.รักต่างเพศ (Heterosexual)
2.คนเปลี่ยนผ่านเพศ (Transgender)
3.คนที่มีเพศกำกวม (Intersex)
4.คนที่เปลี่ยนแปลงเพศ (Transexual)
5.คนที่มีอัตลักษณ์ทั้งสองเพศ (Bigender)
6.คนที่ทีเพศเป็นกลาง (Fa’afafine)
7.คนที่มีเพศผสมผสาน (Gender-Mixing Status)
8.คนที่มีเพศนอกกรอบ (Queer)
เพศวิถีในสังคมไทยมีความหลากหลายและลื่นไหลอย่างมาก โดยในปัจจุบันความหลากหลายทางเพศมีรูปแบบที่ลื่นไหลมากกว่าจะชี้ชัดหรือระบุนิยามได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะสังเกตได้จากการให้คำนิยามคำศัพท์ใหม่ๆของสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ เลสเบี้ยน ทอม ดี้ ทอมเกย์ เกย์คิง เกย์ควีน โบ๊ธ ไบ สามย่าน กะเทย อดัม แองจี้ เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความลื่นไหลแตกต่างได้อย่างชัดเจน จึงจำเป็นต้องเปิดมุมมองและการยอมรับความหลากหลายในเชิงบวก
ระบบความคิดเชื่อเรื่องเพศซึ่งถูกประกอบสร้างทางสังคม เป็นกระบวนการทางสังคมวัฒนธรรมที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อจัดการกำกับควบคุมรวมทั้งส่งผลต่อการแสดงออกเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศ ความปรารถนา ความพึงพอใจในเรื่องเพศ การแสดงออกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ การแต่งกาย ความสนใจทางเพศ และการสร้างจินตนาการที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ รวมถึงการออกกฎเกณฑ์ ระเบียบกฎหมายต่างๆที่มาควบคุมหรือกำกับดูแลเรื่องเพศของคนในสังคม
มิเชล ฟูโกต์ (Michel Foucault) ได้แสดงให้เห็นรูปแบบของการประกอบสร้างความคิด
เป็นจริงทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอำนาจและการ
ครอบงำความรู้รวมทั้งการปฏิบัติการ และทำให้เป็นเรื่องปัญหาทางการแพทย์ โดยเชื่อมโยงให้เห็นประเด็นเรื่องเพศภาวะและ
เพศวิถีและปัญหาอนามัยการเจริญพันธุ์ได้อย่างชัดเจน
แนวคิดของมิเชล ฟูโกต์ ที่พูดถึงเรื่องราวของความจริงได้สะท้อนให้เกิดความคิดว่าความจริงนั้นเป็นเพียงสิ่งประกอบสร้างเท่านั้น ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยผู้ที่มีอำนาจกล่าวคือ ความจริงสามารถที่จะประกอบสร้างผ่านทางวาทกรรมที่กำหนดขึ้นได้
มิเชล ฟูโกต์ ได้เสนอแนวคิดเรื่องเพศภาวะและเพศวิถีไว้ว่า ผู้หญิง ผู้ชายหรือบุคคลที่รักเพศเดียวกันจะถูกกำหนดความ
แตกต่างชัดเจนหรือถูกนิยามขอบเขตด้วยความรู้ทาง
ชีววิทยาและการแพทย์ว่าความเป็นเพศนั้นเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่กำเนิดและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือทำให้แตกต่างจากบรรทัดฐานทางสังคมได้ความจริงที่นิยมเช่นนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีอำนาจมาจำกัดหรือควบคุมให้ปฏิบัติไปตามที่ถูกทำให้เชื่อว่าเป็นจริงแล้วเมื่อยอมรับก็จะตก
อยู่ภายใต้อำนาจของวาทกรรมนั้นทันทีอิทธิพลของวาทกรรมถูกนำมาใช้ในการจัดการกับแบบแผนพฤติกรรม
ทางเพศของคนในสังคมจึงทำให้เพศกลายเป็นรูปแบบ
ของการประกอบสร้างทางสังคมที่ดำรงอยู่มาตั้งแต่ใน
ประวัติศาสตร์
อัตลักษณ์ (Identity) เป็นคำที่รากศัพท์มาจากคำว่า”อัต”หรือ”อตต”ที่แปลว่า
ตนหรือตัวเองและ “ลักษณ์”ที่แปลว่าลักษณะโดยคำว่า อัตลักษณ์ หมายถึงลักษณะของบุคคลซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของตัวตนที่ได้รับอิทธิพลมาจากบริบททางสังคมและวัฒนธรรม โดยลักษณะดังกล่าวจะมีความเฉพาะเจาะจงซึ่งอาจจะ
เหมือนหรือแตกต่างไปจากบุคคลอื่นหรือกลุ่มทางสังคม
อัตลักษณ์ของบุคคล (Individual Identity) จะมีลักษณะที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามการเวลาและ
โอกาสหรือตามบริบทและบทบาททางสังคม ได้แก่อัตลักษณ์ความเป็นแม่ อัตลักษณ์ความเป็นพ่อ อัตลักษณ์ตามสถานะทางเพศหรือเพศภาวะและ
อัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์เป็นต้น ดังนั้นอัตลักษณ์จึงไม่ไดเหยุดนิ่งตายตัวแต่มีการเปลี่ยนแปลงลื่นไหลตลอดเวลาและอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามบริบทของเวลาและสถานที่ที่เปลี่ยนไป
อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) เป็นแบบแผนที่อธิบายให้เห็นเกี่ยวกับลักษณะของความเป็นชายหรือเป็นหญิง ซึ่งอาจแตกต่างกันหรือไม่ได้ และเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยสังคม ทั้งนี้โดยปกติแล้วทั้งเพศชายและเพศหญิงนั้นมีความ
แตกต่างกันทางด้านกายวิภาคศาสตร์และสรีระวิทยาด้านร่างกายรวมถึงพฤติกรรมทางจิตวิทยาสังคมและ
สัญชาตญาณแต่อัตลักษณ์ทางเพศของแต่ละบุคคลนั้น
ถูกกำหนดขึ้นโดยกรอบทางด้านวัฒนธรรมและ
ปฏิบัติการผ่านกระบวนการขัดเกลาทางสังคม ซึ่งอาจจะสอดคล้องหรือแตกต่างไปจากเพศสรีระของตนเองและยังเกี่ยวข้องกับการแสดงออกซึ่งความพึงพอใจ
และการแสดงออกทางด้านเพศที่มีความหลากหลาย
บุคคลที่มีเพศนอกกรอบ (Queer) หมายถึง บุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างจากบรรทัดฐาน
ของสังคม และไม่นิยมตนว่ามีเพศวิถีแบบคนรักต่างเพศ แต่มีเพศวิถีที่หลากหลายได้แก่ หญิงรักหญิง ชายรักชาย ผู้ที่รักสองเพศและผู้ที่ข้ามเพศหรือหมายถึงคนที่มีความหลากหลายทางเพศโดยอธิบายถึงผู้ที่มีรสนิยมทางเพศ
การแสดงออกทางเพศที่นอกเหนือจากคนรักต่างเพศเท่านั้น
บุคคลที่มีเพศนอกกรอบต้องเผชิญกับปัญหาของการถูก
เลือกปฏิบัติลักษณะต่างๆได้แก่กฎหมายห้ามสมรสและ
สิทธิหรือสวัสดิการทางสังคมของคู่สมรสซึ่งไม่ถูกรองรับในกฎหมายการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบุคคลภาค
รัฐและการปฏิเสธความช่วยเหลืออย่างไม่ไยดีและการถูกละเลยต่อการปกป้องด้านสิทธิมนุษย์ชนขั้นพื้นฐานใน
ลักษณะต่างๆเป็นต้น
มิติของอนามัยเจริญพันธุ์ในกลุ่มบุคคลที่มีเพศนอกกรอบยังได้รับอิทธิพลจากทัศนคติเชิงลบที่เหมารวมว่าเป็นพวกที่สำส่อนและเสี่ยงต่อการติดเชื่อ
ไวรัสเอชไอวี(HIV)และโรคเอดส์(AIDS)เป็นต้นทำให้เกิดการต่อต้าน
และรังเกียจบุคคลที่มีเพศนอกกรอบนอกจากนี้ในบริบทของความเชื่อทางศาสนายังพบว่ามีการตีตราให้เป็นคนบาปและกระทำผิดต่อพระเจ้าซึ่งการ
ประกอบสร้างความหมายเหล่านี้ได้ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและ
จิตใจของบุคคลที่มีเพศนอกกรอบโดยอาจจะเห็นได้จากโทษประหารด้วย
การแขวนคอคนที่มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกันในบางประเทศจนถึงปัจจุบัน อันเป็นการแสดงออกถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนที่กระทำต่อผู้มีความหลาก
หลายทางเพศอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ยังปรากฏรูปแบบของการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนขั้นร้ายแรง ได้แก่ การทรมาน ขู่ฆ่า ซ้อม ลักพาตัว การตามคุกคาม การรุมข่มขืน การทำให้หายสาบสูญและฆาตกรรมบุคคลที่มีเพศนอก
กรอบและอาจมีการทิ้งร่างที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บไว้
บนถนน เพื่อประจานและข่มขู่ให้เกิดความเกรงกลัว โดยการกวาดล้างผู้มีความหลากหลายทางเพศทั่วโลก ซึ่งมักเป็นผลมาจากความรู้สึกเกลียดชังความหลากหลายทางเพศในระดับสูงสุดในบางประเทศ ได้แก่ อิรัก อิหร่าน มอริเตเนียน ซาอุดิอาระเบีย เยเมน ซูดาน โซมาเลีย และไนจีเรีย เป็นต้น