Introducing 

Prezi AI.

Your new presentation assistant.

Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.

Loading…
Transcript

ระบบราชการไทยในอดีตสู่

การปฏิรูประบบราชการไทย

ในปัจจุบัน

การปฏิรูประบบ

ราชการไทย

การปฏิรูประบบ

ราชการไทย

การปฏิรูป

คืออะไร

คือ การเปลี่ยนแปลง แต่มิใช่การเปลี่ยนแปลงแบบปกติ หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป การปฏิรูปต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบที่เรียกว่าพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ คือการทำให้สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นปัญหา ผิดไปจากสภาพที่เหมาะสม มาจัดรูปแบบใหม่ ดังนั้นการปฏิรูป จึงไม่ใช่ “การพัฒนา” ที่เป็นการทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น

การปฏิรูป

คืออะไร

ความหมายของการ

ปฏิรูประบบราชการ

ความหมายของการ

ปฏิรูประบบราชการ

การเปลี่ยนแปลงระบบราชการอย่างขนาน

ใหญ่ในทุกด้าน ตั้งแต่บทบาทหน้าที่ โครงสร้างหน่วยงาน โครงสร้างอำนาจหน้าที่ ระบบและวิธีทำงาน ระบบบริหารงาน กฎระเบียบ วัฒนธรรม ค่านิยม และอื่นๆอีกมากที่จะทำให้ระบบราชการเป็นระบบที่สร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เอื้อต่อการพัฒนาประเทศและสร้างความผาสุกให้แก่สังคมโดยรวม

ความสำคัญของการ

ปฏิรูประบบราชการ

ความสำคัญของการ

ปฏิรูประบบราชการ

การเปลี่ยนแปลงของโลกภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ ทำให้การแข่งขันในเวทีโลกรุนแรงมากขึ้น สังคมเข้าสู่ยุคแห่งการเรียนรู้ กระแสแห่งประชาธิปไตยทำให้บทบาทของภาคประชาสังคม

มีบทบาทต่อการบริหารงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น ระบบราชการไทยต้องปรับเปลี่ยนและพัฒนาการบริหาร

จัดการเพื่อเป็นองค์กรสมัยใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ

1.เกิดประโยชน์สุขของประชาชน

2.เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ

3.มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ

4.ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น

5.มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์ 6.ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบ

สนองความต้องการ

ปัญหาและอุปสรรคใน

การปฏิรูประบบราชการไทย

ความด้อยคุณภาพและปัญหาของระบบราชการ ยังอาจเป็นปัจจัยที่จะทำให้ไม่สามารถนำพาประเทศ

ออกจากวิกฤตได้ ดังนั้น การปฏิรูประบบราชการจึงเป็นงานที่มีความจำเป็นเร่งด่วน

สำหรับรัฐบาลและสังคมไทยในยุคนี้ เพราะหากไม่เร่งดำเนินการ ประเทศชาติและประชาชนคนไทยก็จะเสียโอกาส

ในการสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้

ปัญหาและ

อุปสรรคใน

การปฏิรูประบบราชการไทย

อดีต ปัจจุบัน

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งท่ี่ 1

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งท่ี่ 1

การปฏิรูประบบราชการไทยมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานนับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทยาเป็นราชธานี สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พ.ศ.1991-2031) ได้ทรงริเริ่มให้มีการจัดระเบียบการปกครองแบบจตุสดมภ์

โดยแบ่งภารกิจของของราชการออกเป็น เวียง วัง คลัง และนา มีสมุหนายกและสมุหกลาโหมเป็นตำแหน่งหลักในการบริหารราชการ

แผ่นดินการบริหารราชการแผ่นดินในรูปแบบนี้ได้ใช้เรื่อยมาจนถึง

สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ในปีพ.ศ. 2427

การปฏิรูป

ระบบข้าราชการครั้งที่่ 2

การปฏิรูประบบราชการครั้งที่ 2 ของประเทศไทยเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 1 เมษายนพ.ศ. 2435 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 พระองค์ทรงได้ปฏิรูประบบราชการไทยอย่างขนานใหญ่

โดยทรงนำแนวคิดและแบบอย่างการบริหารราชการของ

ประเทศตะวันตกมาใช้ โดยยกเลิกระบบจตุสดมภ์สมุหนายก สมุหกลาโหม เพื่อลดความซ้ำซ้อนของงาน ยกเลิกรูปแบบเมืองลูกหลวง เมืองราชธานีและเมืองเจ้าพระยามหานคร และจัดระบบการบริหารราชการด้วยการแบ่งส่วนราชการออกเป็นกระทรวง ทบวง กรม เพื่อจัดโครงสร้างความสัมพันธ์ของส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้เป็นระบบยิ่งขึ้น

การปฏิรูป

ระบบข้าราชการครั้งที่่ 2

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งที่ 3

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งที่ 3

การปฏิรูประบบราชการไทยครั้งที่ 3 เกิดขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2476 หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองพ.ศ. 2475 ได้มีการตราพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบการ

บริหารราชการแห่งราชอาณาจักรสยามพ.ศ.2446 เพื่อวางโครงสร้างการบริหารราชการแผ่นดิน ภายใต้ระบอบการปกครองใหม่โดยแบ่งการ

บริหารราชการออกเป็นราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งที่ 4

การปฏิรูประบบราชการครั้งที่สี่เกิดขึ้นเมื่อ

ปีพ.ศ. 2545 การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ

วันที่ 19 มิถุนายนพ.ศ. 2544 มีการกำหนดนโยบายการปฏิรูประบบราชการโดย

อนุมัติระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการปฏิรูป

ระบบราชการเพื่อให้การปฏิรูประบบราชการบรรลุ

ผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลโดยให้มีคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการหรือเรียกว่า ปรร. ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีหรือรองนายก

รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน

กรรมการรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำ

สำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

เป็นรองประธานกรรมการ โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการเป็นกรรมการและเลขานุการ

การปฏิรูป

ระบบราชการครั้งที่ 4

ไทยแลนด์ 4.0

ด้วยวิสัยทัศน์ของประเทศไทยที่ว่า ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าว รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะใช้โมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ด้วยนวัตกรรมเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยังยืน หรือที่เรารู้จักกันว่าไทยแลนด์ 4.0 หรือประเทศไทย 4.0 ดังนั้น ระบบราชการที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อสอดรับ และส่งเสริมไทยแลนด์ 4.0 จึงจำเป็นต้องมีการปฏิรูประบบราชการและข้าราชการซึ่ง

เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล

สามารถปฏิบัติงานได้สอดคล้องกับทิศทาง

การบริหารของประเทศ

ไทยแลนด์ 4.0

Learn more about creating dynamic, engaging presentations with Prezi