Introducing
Your new presentation assistant.
Refine, enhance, and tailor your content, source relevant images, and edit visuals quicker than ever before.
Trending searches
้
้
้
้
การละครของไทยมีวิวัฒนาการมาจากการฟ้อนรำจนกระทั่งต่อมาได้รับอิทธิพลจากละครสันสกฤตของอินเดียซึ่งละครสันสกฤตมีจุดมุ่งหมายในการแสดงเพื่อ ให้เกิดความสนุกสนานรื่นรมย์แก่ผู้ชมจึงไม่นิยมแง่ร้ายของชีวิตและจะไม่แสดงให้เห็นเหตุการณ์ที่รุนแรงดังนันละครไทยแต่เดิมจึงเน้นลีลาท่านำที่งดงาม คนดูจะได้ชื่นชมกับตัวละครที่มีบุญญาบารมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และ มีความประพฤติเป็นเลิศ และปลืมปิติกับเหตุการณ์ที่จบลงด้วยดีเสมอ
้
้
ยุคนีเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งการละครสมัยใหม่ของไทยนักเรียนไทย ได้ไปศึกษาวิทยาการสมัยใหม่จากตะวันตกและได้นำแบบแผนการละครแบบตะวันตกซึ่งมีลักษณะสมจริงมากกว่ามาปรับปรุงละครไทยแบบดังเดิมให้ทันสมัยยิ่งขึนโดยในชันต้นเป็นการปรับปรุงละครรำ แบบเดิมที่เชื่องช้า ยืดยาด ขาดความสมจริง ให้สอดคล้องกับยุคสมัย และรสนิยมของผู้ชมมากขึน
ละครที่ปรับปรุงขึนใหม่จากละครรำแบบไทยดังเดิมมี 2 ชนิดด้วยกัน คือ ละครดึกดำบรรพ์ และละครพันทาง
้
้
ประวัติความเป็นมาของละครดึกดำบรรพ์ พ.ศ.2434 เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ เสด็จไปยุโรปและพอใจละครโอเปร่าของฝรั่งเมื่อเดินทางกลับมาจึงได้ปรับปรุง ละครรำแบบไทยเดิมที่ตัวละครรำตามบทโดยไม่ขับร้องมาเป็นทังร้องและรำเองเมื่อ ปรับปรุงการละครเป็นแบบใหม่แล้วเจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ได้สร้างโรงละครขึนใหม่ให้ชื่อว่า โรงละครดึกดำบรรพ์ ทำให้ต่อมามีการเรียกละครแบบใหม่นีว่า ละครดึกดำบรรพ์ มีการจัดแสดงละครดึกดำบรรพ์ระหว่างพ.ศ. 2442-2452 หลังจากนันก็เลิกแสดงไป
้
้
ละครพูด
ดำเนินเรื่องด้วยบทพูดของตัวละคร เน้นการแสดงให้สมจริง กิริยา ท่าทาง การแต่งกาย
บทพูด เป็นไปตามธรรมชาติ มีฉากประกอบตามท้องเรื่อง และมีการเปลี่ยนฉาก การแสดงละครพูดจัดขึนครังแรกใน พ.ศ.2415 เพื่อรับเสด็จรัชกาลที่ 5 นิวัติกลับพระนครจาก ประเทศอินเดีย
้
้
ละครร้อง
้
ละครสังคีต
เป็นละครที่ดำเนินเรื่องด้วยบทพูดและบทร้องอย่างมีความสำคัญทัดเทียมกัน จะตัดส่วนใดส่วนหนึ่งออกไม่ได้ เนือเรื่องจะขาดหายไป ผู้ให้กำเนิดการละครประเภทนี คือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
้
้
้
บทละครไทยแต่เดิมใช้ในการแสดงก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 นั้นได้นำมาจากวรรณคดีที่รู้จักกันดี และนิยมอ่านกันอยู่แล้ว เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา อุณรุท มาตัดตอนดัดแปลงให้เหมาะสมแก่การแสดง ในแต่ละครั้ง โดยคำนึงถึงเวลา โอกาสและสถานที่ที่ใช้ในการแสดงเป็นสำคัญ ละครไทยเดิมที่ใช้แสดงมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาถึง ต้นรัตนโกสินทร์ นั้นมี 3 แบบด้วยกันคือ ละครชาตรี ละครใน ละครนอก ซึ่งมีบทบาท ในการแสดงแตกต่างกันไปในแต่ละชนิด
2.การแบ่งประเภทของละครตะวันตก
1.การแบ่งประเภทของละครไทย
2.1 แบ่งตามแบบ มี 5 ประเภท คือ
1.1 ละครที่ปรับปรุงจากละครรำ
ของเดิมมี 2 ชนิดคือ
2.2 แบ่งตามท่วงทำนอง มี 8 แนว คือ
1.2 ละครที่นำแบบอย่างมาจาก
ตะวันตก มี 3 ชนิด คือ
ละครดึกดำบรรพ์
-เป็นละครผู้หญิงที่ปรับปรุงจากละครรำของเดิม และมโหรีดนตรีไทย
-โดยได้แนวคิดจากโอเปร่าตะวันตกผู้คิดแบบละครประเภทนี้ได้แก่ เจ้าพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์ เป็นผู้จัดกระบวนท่า และ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้ออกแบบลำนำทำนองเพลง ทรงออกแบบฉากและกำกับการแสดงการแสดง แบ่งออก เป็นตอนๆ มีฉากประกอบ
-ตัวละครร้องเองส่วนใหญ่นิยมนำบทละครเก่าๆของไทยมาดัดแปลง เช่น สังข์ทอง คาวี อิเหนา
ละครโศกนาฏกรรม
โศกนาฏกรรม (Tragedy) เป็นการนำปัญหาที่ลึกซึ้งของมนุษย์มาพิจารณาและพยายามแสวงหาคำตอบ
ดำเนินเรื่องอย่างมีเหตุผล ตรงไปตรงมา ไม่ใช่เหตุบังเอิญ วิถีทางของเรื่องจะต้อง สมเหตุสมผลและดูน่าเชื่อ
- เสนอเรื่องราวในแง่เคร่งเครียดมาก
- สนใจมองปัญหาที่ลึกซึ้งที่มนุษย์จะต้องประสบ เช่นจุดมุ่งหมายในชีวิต การต่อสู้ในการเลือกวิถีชีวิต
- จุดมุ่งหมายของโศกนาฏกรรมคือการนำไปสู่ภาวะความบริสุทธิ์ทางใจ เพราะในขณะที่ชม
ผู้ชมจะเกิดความรู้สึก 2 อย่าง คือ ความสงสารที่ตัวละครต้องประสบกับความทุกข์ และความกลัว
ว่าตัวเองจะต้องประสบกับความวิบัติเช่นนั้นบ้าง เป็นความรู้สึกที่นำตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบ
กับชีวิตของตัวละครแต่เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายในตอนจบ คนดูจะเกิดความกระจ่างในใจ
เข้าใจถึงสาเหตุ และเข้าใจชีวิตมนุษย์ดีขึ้น
ละครสุขนาฏกรรม
- เสนอเรื่องราวยังไม่เคร่งเครียดนัก
- มักออกมาในรูปของการล้อเลียน เสียดสี หรือสนุกกับตัวละครไปด้วย
- ลักษณะสำคัญคือต้องทำให้คนดูแยกความรู้สึกของตัวเองออกจากเหตุการณ์ นั่งมองเหตุการณ์นั้นเหมือนเป็นบุคคลภายนอกเพราะคนเราจะไม่สามารถหัวเราะให้กับ ความผิดปกติที่เราเห็นอกเห็นใจ เราจะขันเมื่อได้เห็นสิ่งผิดปกติวิสัยหากไม่ใช้อารมณ์ เข้าไปพัวพันอยู่ด้วย
ละครเริงรมย์ หรือ เมดโลดรามา
- เสนอเรื่องราวอย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ไม่ลึกซึ้งนัก
- โลกของความดีและความชั่วจะอยู่แยกกันอย่างเห็นได้ชัด
- ลักษณะของตัวละครจะแบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายพระเอก และฝ่ายผู้ร้าย
เรื่องราวจะมีปมชวนให้ระทึกใจ เมโลดรามาสนใจการวางโครงเรื่องมากกว่าการวางนิสัยตัวละคร เรื่องราวจึงมักขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ โดยไม่ได้เกิดจากการตัดสินใจของตัวละครเอง ตัวละครจะเป็นเพียงตัวที่ทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นและผันแปรไป
ละครหัสนาฏกรรม
เป็นละครสุขนาฏกรรมประเภทหนึ่ง เป็นสุขนาฏกรรมที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
- หัสนาฏกรรมจะประกอบด้วยเหตุการณ์และตัวละครที่เกินจริงอย่างชัดเจน
- เน้นที่การดำเนินเรื่องเป็นสำคัญกว่าการสร้างลักษณะนิสัยตัวละคร
- มีลักษณะของละครตลกเฮฮาในแบบของจำอวด
- นิยมใช้เหตุบังเอิญหรือเหตุการณ์แรงๆเน้นเรื่องตลกและวางมุกตลกเพื่อพยายาม เรียกเสียงหัวเราะอยู่เสมอโดยเป็นไปอย่างจงใจ เรียกร้องให้คนดูหัวเราะ
ละครสมัยใหม่
เป็นละคนในแนวจริงจังที่ไม่อาจเรียกได้ว่าโศกนาฏกรรม แต่ก็ยังมีความลึกซึ้งเกินกว่าเมโลดรามา มักเป็นเรื่องชีวิตของคนทั่ว ๆ ไป อย่างที่เราจะพบเห็นได้ในปัจจุบันมีการพัฒนาลักษณะนิสัยตัวละครอย่าง ละเอียดรอบคอบ เสนอปัญหาทางสังคม จิตวิทยาหรือปรัชญา ที่คนในสมัยปัจจุบันกำลังเผชิญอยู่ บทละครสมัยใหม่มีลักษณะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้
้
ด้านจุดมุ่งหมาย
บทละครสมัยใหม่จะเขียนขึ้นเพื่อการสื่อสารหรือสื่อความคิด อย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นความจริงเกี่ยวกับชีวิตจิตใจของมนุษย์ เพื่อให้ผู้ชมได้หยุดคิดมากกว่าจะต้องการให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครหรือเหตุการณ์ในเรื่อง
ด้านแนวคิด
บทละครสมัยใหม่มักจะเสนอแนวคิดตามหลักปรัชญาอัตถิภาวะนิยม ที่ถือหลักว่ามนุษย์ควรมีสิทธิในการเลือกดำเนินชีวิตเอง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของสิ่งใดทั้งสิ้น
้
ด้านเนือหา
ละครสมัยใหม่จะสะท้อนให้เห็นความสับสนวุ่นวายของโลก ความว่างเปล่าไร้จุดหมายของชีวิตตลอดจนสภาพของคนใน สมัยปัจจุบันที่ต้องสูญเสียไปแล้วทั้งความทรงจำเกี่ยวกับอดีต และความฝันอันสูงส่งของอนาคต
ด้านรูปแบบการเขียน
ไม่นิยมสร้างโครงเรื่องให้แสดงความขัดแย้งเหมือน บทละครสมัยเก่า หรือไม่นิยมสร้างโครงเรื่องให้กระชับกลมกลืนกัน บางครั้งอาจจะไม่มีทั้งตอนขึ้นต้นหรือลงท้าย ไม่มีการดำเนินเรื่อง เพราะผู้แต่งเพียงหยิบยกสถานการณ์บางตอนมาเสนอให้เกิดแนวคิดเท่านั้น
ด้านปรัชญาการละคร
บทละครสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะยึดหลักปรัชญาแนวสัจนิยม ที่มีจุดมุ่งหมายในการแสดงปัญหาสังคมสะท้อนภาพ
ความเป็นจริงแห่งชีวิตที่สัมพันธ์กับชีวิตของคนร่วมสมัย
้
ได้รับความนิยมในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แต่มาซบเซาเมื่อสมัยสงครามโลกครังที่ 2 เพราะผู้คนหันมาสนใจภาพยนตร์ซึ่งเป็นสิ่งแปลกใหม่ ต่อมาได้มีการฟืนฟูการแสดงละครพูดอีกครังในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งปัจจุบันการแสดงละครพูดสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ
้
ละครเวที
1. เรื่องจะแบ่งออกเป็นตอน เป็นฉาก
- ผู้เขียนบทต้องให้รายละเอียดเกี่ยวกับฉากชัดเจน
- สถานที่
- เวลา
- เครื่องประกอบฉาก
- บรรยากาศ
2.ตัวละคร
- มีใครบ้าง
- ตัวละครเป็นใคร
- มีลักษณะอย่างไร (เพศ วัย บทบาท ฯลฯ)
- เครื่องแต่งกาย
- บุคลิกพิเศษของตัวละคร
3.บทสนทนา (องค์ประกอบหลักที่สำคัญของบทละคร)
- สื่อความหมาย
- อารมณ์
- บอกเหตุการณ์
- เผยบุคลิกตัวละคร
- สร้างบรรยากาศให้ดูสมจริง
4.เสียงที่ใช้ประกอบฉาก
เสียงดนตรีเพลงหรือเสียงประกอบต่างๆที่ทำให้การแสดงนั้น ดูสมจริง เช่น เสียงน้ำตก เสียงฝีเท้า เสียงลมพัด เสียงกรีดร้อง นอกจากเสียงนี้เพลงประกอบฉากก็สำคัญเนื่องจากจะส่งผล ต่ออารมณ์ของผู้ชมด้วย
ละครวิทยุ
1.บทบรรยาย
- แทรกบทบรรยายสั้น ๆ เพื่อให้ดำเนินเรื่องกระชับ
-เล่าประวัติความเป็นมา
-เหตุการณ์หรือฉาก
- ไม่ควรมีบทบรรยายมากเกินไปเพราะจะกลายเป็น เรื่องเล่า
2.ตัวละคร
- ผู้แต่งต้องกำหนดให้ชัดเจน
-ตัวละครเป็นใคร
-ลักษณะพิเศษ
- ละครวิทยุจะใช้เสียงพูดของตัวละครเพื่อบ่งบอกลักษณะของตัวละคร เช่น
-เสียงก้าวร้าวของนักเลง
-เสียงสุขุมของผู้ดี
-เสียงสดใสของเด็ก
3.บทสนทนาของตัวละคร
-เขียนเหมือนกับบทละครเวที
-แทรกบทรำพึงรำพันของตัวละคร เพื่อให้ผู้ฟังนึกภาพตามไปด้วย
-มักกำกับเสียงของตัวละครไว้ในวงเล็บเพื่อให้ผู้แสดงทำเสียง สอดคล้อง กับกิริยาที่ควรจะเป็นในขณะนั้น
4.เสียงดนตรี
- เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับละครวิทยุ
- เสริมบรรยากาศให้ผู้ฟัง
- ใช้เป็นเครื่องเปลี่ยนฉาก
- เปลี่ยนระยะเวลาระหว่างฉาก
- ใช้เพื่อคั่นเหตุการณ์
- ผู้แต่งควรระบุเสียงดนตรีไว้ให้พร้อมและสอดคล้องกับเหตุการณ์
5.เสียงประกอบการแสดง
- เสียงต่างที่ช่วยให้ผู้ฟังนึกภาพไปตามท้องเรื่อง เช่น
- เสียงคนคุยกัน
- เสียงสุนัขเห่า
- เสียงฟันดาบ
- ผู้แต่งควรระบุไว้ให้ชัดเจนว่าจะใช้ตอนใดบ้าง
ตัวอย่างละครวิทยุ
https://www.youtube.com/watch?v=zkUaT5Ea_q0&list=PL9EC8B9929B507DD1
้
บทละครวิทยุ เรื่อง รักของผีเสือ
แก่นของเรื่อง : รักไม่มีเงื่อนไข
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเสริมสร้างความสนุกสนาน และความบันเทิงใจแก่ผู้รับฟังทั่วไป 2. เพื่อเป็นการเสนอถึงมุมมองความรักในแง่ของการรักไม่มีเงื่อนไข
กลุ่มเป้าหมาย : ประชาชนทั่วไป
ผู้ประกาศ : ความรักมีอยู่หลากหลายรูปแบบด้วยกันนะคะ วันนีรายการของเราก็มีละครวิทยุเรื่องหนึ่งที่นำเสนอเกี่ยวกับมุมมองความรักที่ยอม เสียสละและทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารักค่ะ ความรักที่ว่านั่นก็คือ “การรักไม่มีเงื่อนไข” แต่ไม่ว่าความรักของคุณผู้ฟังจะเป็นอย่างไรความรักก็คือสิ่งที่สวยงามเสมอ ถ้าคุณผู้ฟังรู้จักที่จะรักให้เป็น ความรักรักก็จะอยู่กับเราตราบนานเท่านานแน่นอนค่ะ
ฉากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
อัศวิน : นิดครับคุณหิวข้าวหรือยัง
วนิดา : นิดก็เริ่มหิวข้าวแล้วล่ะค่ะวิน นี่มันก็เที่ยงแล้วนี่นา แต่เอ .. วันนี้เราจะทานอะไรกันดีน๊าอัศวิน : แล้วนิดอยากทานอะไรล่ะครับ
วนิดา : อืม .. นิดอยากทานพิซซ่า เอ็มเค เคเอฟซี ซิสเลอร์ ฮาจิบัง ยาโยอิ เชสเตอร์กริล …. ฯลฯ
อัศวิน : เอ่อ นิด วินว่าถ้านิดทานหมดทุกอย่างที่พูดมานี่ นิดคงไม่ใช่นิดแล้วนะ แต่นิดจะกลายเป็นหมูแทน 55
วนิดา : แหม วินก็นิดก็แค่พูดเล่นเฉย ๆ ค่ะ เอาเป็นว่าวันนี้เราไปทานข้าวมันไก่ร้านประจำกันดีกว่า
อัศวิน : ครับ
F/I เสียงรถยนต์ขับออกไป แล้วไปหยุดที่ร้านข้าวมันไก่ F/U ฉากร้านอาหาร
วนิดา : มาทานข้าวมันไก่ที่นี่ทีไร คิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ของเราจังเลยค่ะวิน
อัศวิน : ครับ วันที่วินเจอนิดครั้งแรก วนิดา : วินจำได้ด้วยหรอคะ นิดคิดว่านิดจะจำอยู่คนเดียวซะอีก อัศวิน : แล้วมีเรื่องไหนของเราที่วินจำไม่ได้บ้างล่ะครับ เดี๋ยวทานเสร็จแล้ววินจะพานิดไปที่ ๆ นึง
วนิดา : ที่ไหนหรอคะ นิดชักจะตื่นเต้นแล้วสิ
อัศวิน : บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรท์ น้องครับเก็บเงินด้วย
พนักงานร้านข้าวมันไก่ : แปดสิบบาทครับพี่
อัศวิน : ไม่ต้องทอนครับ
F/I เสียงลุกจากเก้าอี้ เสียงรถยนต์แล่นออกไปหยุดที่สวนสาธารณะF/U
ที่มา : http://chawisa-ect.blogspot.com/2010/10/normal-0-false-false-false.html
ตัวอย่างละครวิทยุ : https://www.youtube.com/watch?v=zkUaT5Ea_q0&list=PL9EC8B9929B507DD1
ละครโทรทัศน์
เขียนขึ้นเพื่อใช้แสดงออกอากาศทางโทรทัศน์ มีลักษณะเฉพาะคือ
-การเล่าเรื่องด้วยภาพและเสียง
-ภาพที่ผู้ชมเห็นมี ตัวละคร ฉาก และแสง
-เสียงมี 3 อย่างคือ
-เสียงพูดตัวละคร
-เสียงประกอบ
-เสียงเพลงประกอบ
หลักการเขียน ผู้แต่งจะต้องแบ่งกระดาษเป็น 2 ส่วน ดังนี้
-ส่วนซ้ายมือ เขียนเกี่ยวกับภาพ
-สิ่งที่ปรากฏในการแสดง
-อาการของผู้แสดง
-การจับภาพมุมต่างๆของกล้อง
-ต้องระบุให้ชัดเจน
-ส่วนขวามือ เขียนเกี่ยวกับเสียง
-บทพูดของตัวละคร
-เสียงประกอบ
-เสียงเพลงประกอบ
ละครโทรทัศน์ไม่มีการเปิดม่านและปิดม่าน แบบละครเวที แต่จะใช้การเริ่มถ่ายภาพ (เฟดอิน) และให้ภาพจางหายไป(เฟดเอาท์) แทน
ดังตัวอย่างต่อไปนี้
บทละครโทรทัศน์
ของคุณ วิม อิทธิกุล
บทละครพูดมีองค์ประกอบเช่นเดียวกับบันเทิงคดีประเภทนวนิยาย และเรื่องสั ้น คือ ประกอบด้วย โครงเรื่อง ตัวละคร บทสนทนา และฉาก
แต่มีส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ แสง สี เสียง ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศ อารมณ์ หรือการรับรู้ ให้แก่ผู้ชม แทนการบรรยายหรือพรรณนา
่
่
้
้
ผู้อ่านใช้วิจารณญาณและจินตนาการในการพิจารณาว่าที่ตัวละครแสดงพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะอะไรจึงต้องอ่านอย่างละเอียดและใช้ความคิดไตร่ตรองเพื่อค้นหาสาระข้อคิดที่ผู้แต่ง
ต้องการสื่อมา ยังผู้อ่าน ขณะเดียวกันก็ได้รับความเพลิดเพลินจากการอ่านไปพร้อมกันด้วย
้
วิเคราะห์โครงเรื่อง
เป็นการวิเคราะห์ถึงลำดับเหตุการณ์ที่ผู้เขียนบทเลือกสรร และเรียบเรียงขึนมาเป็นบทละคร คงเลือกที่ลำดับไว้อย่างดีจะมีผลต่อการสร้างอารมณ์ให้ผู้ชมมาก ศิลปะการเขียนบทละครที่ดี จึงขึนอยู่กับความสามารถของผู้แต่งในการวางโครงเรื่องเป็นอย่างมาก ปัจจัยที่จะใช้ในการ วิเคราะห์โครงเรื่องของบทละคร มีดังนี
้
้
้
้
้
้
วิเคราะห์ตัวละคร
้้
้
2.1 การวิเคราะห์ตัวละครอาจทำได้ 2 ลักษณะ คือ วิเคราะห์ประเภทของตัวละคร เป็นการพิจารณาลักษณะของตัวละครในบทละครนัน ๆ ว่าจัดอยู่ประเภทใดดังต่อไปนี
2.1.1 แบบสองมิติ คือ แสดงลักษณะด้านใดด้านหนึ่ง มีลักษณะตื่นและแบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษที่มีแต่ความยาวและความกว้างแต่ไม่มีความลึก
2.1.2 แบบสามมิติ คือแสดงลักษณะให้เห็นมากมายหลายด้านเหมือนคนจริงๆ มีความลึก แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกนึกคิด จิตใจที่อยู่ข้างในการกระทำ
2.1.3 แบบตายตัว แสดงลักษณะนิสัยตามที่คนทั่วไปคาดหมายว่าคนประเภทนี้จะต้องเป็น เช่น แม่เลี้ยงใจร้าย เด็กสาวไร้เดียงสา พระเอกผู้กล้าหาญและเสียสละ
้
้