พ.ศ. 2520-2524
สถานการณ์ประเทศไทยก่อนเริ่มใช้แผนพัฒนา ฯ ฉบับที่ 4
สถานการณ์การเมือง สังคม และเศรษฐกิจในช่วง แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1-3 มุ่งเน้นด้านเศรษฐกิจเป็นหลักในการพัฒนาประเทศ
เกิดความเลื่อมล้ำทางสังคม
สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ทางธรรมชาติเสื่อมโทรม
ช่วงเปลี่ยนผ่านและสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง
เกิคความขัดแย้งทางสังคมรวมทั้งความวุ่นวายในบ้านเมือง ประชาชนแบ่งเป็นฝักฝ่าย
สืบเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองของประเทศในช่วงที่ผ่านมา เป็นมูลเหตุและเป็นพลังผลักดันให้รัฐบาลต้องวางแผนพัฒนาประเทศใน “แนวใหม่” โดยยึดถือความมั่นคงปลอดภัยของชาติเป็นพื้นฐานหลักเบื้องต้นของการพัฒนา โดยเน้นการปฏิรูปนโยบายหลายด้านที่เห็นว่าจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน
ในโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเร่งฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคง
พ.ศ 2520 - 2524
มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 13 และเป็นครั้งแรกหลัง
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2521
กบฏยังเติร์ก
หรือ
กบฏเมษาฮาวาย
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์
เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 15
กบฏ
ฉลาด หิรัญสิริ
11 พ.ย. 2520
22 เม.ย. 2522
1-3 เม.ย. 2524
26 มี.ค. 2520
22 ธ.ค 2521
3 มี.ค. 2523
20 ต.ค. 2520
รัฐประหารครั้งที่ 10
โดยพลเรือเอกสงัด ชลออยู่
ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
ฉบับที่ 13 ของประเทศ
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
คนที่ 16 ของประเทศ
นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
(พ.ศ. 2519-2520)
พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
(พ.ศ. 2520-2523)
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
(พ.ศ. 2523-2531)
พ.ศ 2520 - 2524
บริษัทราชาเงินทุน ซึ่งเป็นบริษัทเงินทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยในสมัยนั้น ในช่วงปี พ.ศ. 2521 - 2522 ได้ปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทของตน
ทำให้เกิดหนี้เสียเป็นจำนวนมาก
จนในที่สุดกระทรวงการคลังต้องสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท เนื่องจากบริษัทเกิดสภาวะล้มละลาย หนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2522
สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาการเมืองภายในอิหร่าน ทำให้เศรษฐกิจอิหร่านแทบจะเป็นอัมพาต เกิดการประท้วงหยุดงานในบริเวณแหล่งผลิตน้ำมัน ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในประเทศและการส่งออกน้ำมันลดลงประเทศในกลุ่มโอเปคประกาศ
ให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 15 % ภายในระยะเวลา 1 ปี เกิดสงครามศาสนาระหว่างอิรักและอิหร่านขึ้นมาอีก ยิ่งทำให้การผลิตน้ำมันในตลาดโลกลดลง ผล ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งพรวดไปอยู่ที่ 32-34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากวิกฤตน้ำมันแพง
1.ขาดดุลการค้าและดุลการชำระเงิน
2.ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าสูงขึ้น
3.เสถียรภาพทางเศรษฐกิจไม่มั่นคง
แห่งชาติ ฉบับที่ 4
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 4 เป็นแผนจัดกรอบ “นโยบายแห่งชาติ” มีประเด็นสำคัญที่แตกต่างไปจากแผนพัฒนาฯ ฉบับก่อนๆ คือ เป็นแผนพัฒนาฯ ที่มุ่งสร้างความเป็นธรรมทางสังคมภายใต้พื้นฐานของความมั่นคงแห่งชาติโดยเน้นการลดความ
เหลื่อมล้ำในฐานะของบุคคลทางเศรษฐกิจให้ลดลงและมุ่งที่จะเสริมสร้างสวัสดิภาพทางสังคมแก่คนส่วนใหญ่ในชาติมากกว่าเป็นแผนพัฒนาฯที่เน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลักอย่างที่เคย
จัดทำมาในช่วงของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 1 – 3
2 เพื่อลดช่องว่างในฐานะทางเศรษฐกิจและ
สังคมในหมู่ประชาชน
ให้ลดน้อยลง
3 เพื่อลดอัตราเพิ่มและปรับปรุงคุณภาพของประชากรตลอดทั้ง
การเพิ่มการจ้างงาน
ในประเทศ
1 เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
5
เพื่อสนับสนุนขีด
ความสามารถในการป้องกันประเทศและแก้ปัญหาในบางพื้นที่เพื่อความมั่นคง
4
เพื่อเร่งบูรณะและ
ปรับปรุงการบริหาร
ทรัพยากรหลักตลอดทั้งสิ่งแวดล้อม
ของชาติ
1.เป้าหมายการผลิต ขยายตัวโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 7.0 ต่อปี
2.เป้าหมายการค้าระหว่างประเทศ
3.เป้าหมายการลงทุน
4.เป้าหมายการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
5.เป้าหมายด้านการคลัง
6.เป้าหมายประชากรและการมีงานทำ
1) เร่งขยายการผลิตสาขาเกษตรให้ได้โดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 5.0 ต่อปีเป็นอย่างต่ำ
2) ปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรม ขยายการผลิตเพื่อการส่งออก
3) วางแผนเร่งรัดการส่งออกและแผนการผลิตทดแทนการนำเข้า
4) กำหนดแนวทางการพัฒนาภาคและกระจายการพัฒนาเมืองหลักขึ้นในส่วนภูมิภาคให้ชัดเจน
5) เร่งขยายและกระจายบริการเศรษฐกิจขั้นพื้นฐาน
6) สนับสนุนและเร่งรัดแผนงานในการลดอัตราเพิ่มประชากร
7) วางแนวการขยายและการกระจายบริการสังคมให้ไปถึงมือประชาชนใน ชนบทอย่างกว้างขวาง
8) วางแนวทางการพัฒนาเสถียรภาพทางสังคมของชาติให้มั่นคงยิ่งขึ้น
9)กำหนดแนวทางการบูรณะและบริการจัดสรรทรัพยากรเศรษฐกิจหลักและแนวทางการพัฒนาสิ่งแวดล้อมของประเทศ
10) วางแผนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
1) เน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 โดยพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงาน
2) ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
3) เน้นสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยเน้นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง
1. ด้านเศรษฐกิจ
2. ด้านการบริหารงานภาครัฐ
3. ด้านกระจายรายได้และบริการสังคม