การนำทฤษฎีนี้มาใช้ในการเรียนการสอน
หลักการเรียนรู้ของทฤษฎี กลุ่มเกสตัลท์เน้นการเรียนรู้ที่ส่วนรวมมากกว่าส่วนย่อย ซึ่งจะเกิดขึ้นจากประสบการณ์และการเรียนรู้เกิดขึ้นจาก 2 ลักษณะคือ
2. การหยั่งเห็น (Insight)
1. การรับรู้ (Perception)
ความเข้าใจสาระสำคัญขององค์ประกอบในปัญหานั้นว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร และเราควรแก้ตรงจุดใดก่อนหลัง หรือการหยั่งเห็นเป็นความเข้าใจที่เกิดขึ้น หลังจากที่มีการลองผิดลองถูกอยู่ระยะหนึ่งแล้วจะเกิดความคิดแวบหนึ่ง มองเห็นช่องทางที่จะแก้ปัญหานั้นๆ ซึ่งแสดงว่าเราเข้าใจ หรือมองเห็นแนวทางแก้ปัญหานั้นอย่างกระจ่างแจ้งนั่นเอง
เป็นการแปรความหมายจากการสัมผัสด้วยอวัยวะสัมผัสทั้ง 5 ส่วน
คือ หู ตา จมูก ลิ้นและผิวหนัง การรับรู้ทางสายตาจะประมาณร้อยละ 75 ของการรับรู้ทั้งหมด
กฏการจดระเรียบหมวดหมู่ หรือรูปร่างของสิ่งที่รับรู้มีมากมาย แต่กฏที่สำคัญซึ่งจะกล่าวถึงกันอยู่เสมอ มีดังต่อไปนี้
ในการสอนครูควรจะให้ผู้เรียนมองเห็นโครงสร้าง ทั้งหมดของเรื่องที่จะสอนก่อน เพื่อให้เด็กเกิดการรับรู้เป็นส่วนรวมแล้วจึงแยกส่วนออกมาสอนเป็นตอนๆเน้นให้ผู้เรียนเรียนด้วยความเข้าใจมากกว่าเน้นการเรียนแบบท่องจำ
การเรียนด้วยความเข้าใจต้องอาศัยสื่อที่ชัดเจนประกอบการเรียน
และต้องเรียนด้วยการปฏิบัติจริงหรือผู้เรียนลงมือกระทำเอง(LearningbyDoing) ฝึกให้ผู้เรียนสามารถโยงความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ที่เรียนไปแล้วกับความรู้ใหม่ว่ามีความแตกต่างและคล้ายคลึงกันอย่างไร
เพื่อช่วยให้จำได้นาน
1.3 กฎต่อเนื่อง
(Principle of Continuity)
1.2 กฎความคล้ายกัน
(Principle of Simmilarity)
1.1 กฎความใกล้ชิด
(Principle of proximity)
สิ่งเร้าที่มีทิศทางในแนวเดียวกันซึ่งผู้เรียนจะรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
สิ่งเร้าใดๆ ที่อยู่ใกล้กัน เรามักจะรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
สิ่งเร้าใดๆ ก็ตามที่มีลักษณะรูปร่าง ขนาด หรือสีคล้ายๆกัน เรามักจะรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
1.6กฎการปิด
Principle of Closure
1.4 กฎอินคลูซิฟ
(Principle of Inclusiveness)
1.5กฎการเคลื่อนไหวไปใน
ทิศทางร่วมกัน
(Principle of Commonfate)
เรามักจะมองภาพที่ขาดความสมบูรณ์ให้เป็นภาพที่สมบูรณ์ หรือมองเส้นที่ขาดตอน ให้ปิดหรือต่อกันเป็นรูปร่าง
ภาพที่เรามองเห็นเป็นรูปร่างนั้น มักจะเป็นองค์ ประกอบที่มากที่สุดหรือใหญ่ที่สุดเสมอ
สิ่งใดๆที่เคลื่อนไหวในทิศทางร่วมกันหรือมีจุดหมายร่วมกันเราก็มีแนวโน้มที่จะรับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน
ทฤษฎีเกสตัลท์
(Gestalt Theory)
ทฤษฎีเกสตัลท์ (Gestalt Theory)
นำแนวคิดของทฤษฏีนี้ไปใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ว่าควรทำความเข้าใจโดยมองปัญหาทุกแง่ทุกมุม ไม่ควรมองปัญหาโดยมีอคติ และใช้ความคิดอย่างมีเหตุมีผลในการแก้ปัญหา
นำไปใช้ในการทำความเข้าใจบุคคลว่า ควรมองเขาในภาพรวม ( The Whole Person ) คือ การศึกษาคุณลักษณะต่างๆ ของบุคคลกับความมีเหตุผล ไม่ตัดสินความดีความชั่ว ของบุคคล โดยมองด้านใดด้านหนึ่งของเขาเท่านั้น
แนวความคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฎีนี้ คือ
การเรียนรู้เป็นกระบวนการทางการคิดซึ่งเป็นกระบวนการภายในตัวมนุษย์
บุคคลจะเรียนรู้จากสิ่งเร้าที่เป็นส่วนรวมได้ดีกว่าส่วนย่อย
หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีนี้จะเน้นกระบวนการคิด การสอนโดยเสนอภาพรวมก่อนการเสนอส่วนย่อย
ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีประสบการณ์มากและหลากหลายซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียน
สามารถคิดแก้ปัญหา คิดริเริ่มและเกิดการเรียนรู้แบบหยั่งเห็นได้
การนำหลักการทฤษฎีกลุ่มความรู้ ความเข้าใจ ไปประยุกต์ใช้พลศึกษา
คำถาม
1. ครูควรสร้างบรรยากาศการเรียนที่เป็นกันเอง และมีอิสระที่จะให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ทั้งที่ถูกและผิด เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นความสัมพันธ์ของข้อมูล และเกิดการหยั่งเห็น
1.แนวความคิดของทฤษฎีเกสตัลต์คืออะไร
2. เปิดโอกาสให้มีการออกมาปฏิบัติหน้าชั้นเรียน โดยใช้แนวทางต่อไปนี้
--เน้นความแตกต่าง
--กระตุ้นให้มีความกล้าแสดงออก
--กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม
--ให้นักเรียนได้ลองผิด ลองถูก
--ครูค่อยบอกวิธีที่ถูกให้กับนักเรียน
สมาชิกในกลุ่มที่ 7
1.นายเธียรวิชญ์ พลายทับทิม 242
2.น.ส.ภัทราพร บุญมี 259
3.นายรุจชานนท์ ตั้งกมลวัฒนา 263
4.น.ส.ศิริยา จามิกรณ์ 273
คณะพลศึกษา เอกพลศึกษา
5.บุคลิกภาพของครูและความสามารถในการถ่ายทอด
จะเป็นสิ่งจูงใจให้ผู้เรียนมีความศรัทธาและ
ครูจะสามารถเข้าไปอยู่ใน Life space ของผู้เรียนได้
2.กฎการเรียนรู้ของเกสตัล์ เกิดขึ้นจากกี่ลักษณะ อะไรบ้าง
3.ให้นิสิตยกตัวอย่างกฎ*การรับรู้ *มาหนึ่งข้อ
4.ให้นิสิตอธิบายการหยั่งเห็น
5.นิสิตสามารถนำทฤษฎีนี้มาใช้ในการเรียนการสอนวิชาพลศึกษาได้อย่างไร
3. การกำหนดบทเรียนควรมีโครงสร้างที่มีระบบเป็นขั้นตอน เนื้อหามีความสอดคล้องต่อเนื่องกัน
4.คำนึงถึงเจตคติและความรู้สึกของผู้เรียนพยายามจัดกิจกรรมที่กระตุ้นความสนใจ
ของผู้เรียนมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ผู้เรียนนำไปใช้ประโยชน์ได้และควรจัดโอกาสให้
ผู้เรียนรู้สึกประสบความสำเร็จด้วย